เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ปภ.ช. ในวันนี้ (30 ม.ค.) รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.-3 ก.พ. นี้ ประเทศไทยจะเผชิญกับอากาศปิดอีกระลอก ซึ่งจะส่งผลให้ค่าฝุ่นในหลายพื้นที่ของประเทศอาจเพิ่มขึ้น ที่ประชุมจึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือการสั่งงดเผาโดยไม่มีข้อยกเว้น และยกระดับมาตรการต่างๆ แต่กรณีระยะเร่งด่วน ในพื้นที่ที่ค่าฝุ่นยังเกินมาตรฐาน ให้ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนให้มากที่สุด ที่ประชุมสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขจัดเจ้าหน้าที่พร้อมทีมแพทย์เข้าดูแลประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 5 กลุ่มเสี่ยง ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานว่ามียอดรวมประมาณ 178,000 ราย ประกอบด้วย เด็กเล็ก 29,982 ราย ผู้สูงอายุ 137,622 ราย หญิงตั้งครรภ์ 2,305 ราย ผู้มีโรคหัวใจ 3,857 ราย และผู้มีระบบทางเดินหายใจ 5,007 ราย อีกทั้งจัดทีมพิเศษฉุกเฉินสุขภาพ ระดับจังหวัด 76 ทีม และระดับอำเภอ 878 ทีม ลงพบประชาชนและเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขแล้ว

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ปภ.ช. รายงานว่า ปริมาณหมอกควันและฝุ่นพีเอ็ม 2.5 สูงใน 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำพูน พิษณุโลก สุโขทัย นนทบุรี สระบุรี เพชรบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และประจวบคีรีขันธ์ ได้ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ลงพื้นที่ไปให้ความรู้แก่ประชาชนถึงแนวปฏิบัติที่เหมาะสม เพื่อลดผลกระทบด้านสุขภาพแก่ประชาชนแล้ว ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยแล้วกว่า 180,000 ชิ้น และหน้ากาก N95 กว่า 1,100,000 ชิ้น ขณะที่สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) แจกหน้ากากอนามัยให้กลุ่มเปราะบางแล้วกว่า 377,000 ชิ้น ซึ่งข้อมูลทางการแพทย์ชี้ชัดว่า การใส่หน้ากาก N95 แม้ป้องกันฝุ่นได้ดีกว่า แต่อาจไม่เหมาะกับการใช้งานจริง ซึ่งการใส่หน้ากากอนามัยแบบทั่วไป สามารถกรองฝุ่นได้ แต่หากรู้สึกไม่มั่นใจ หรือต้องไปในพื้นที่ฝุ่นหนาแน่น อาจสวมหน้ากาก 2 ชั้น เพื่อป้องกันฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น

นายจิรายุ กล่าวว่า ที่ประชุม ปภ.ช. ยังกำชับให้ทุกส่วนราชการที่บังคับใช้กฎหมายดำเนินการจับกุมตามนโยบาย “ป้องกัน ปราบปราม สนับสนุน ลดฝุ่น” อย่างเคร่งครัด โดยให้รายงานต่อที่ประชุม บก.ปภ.ช. ทุกวัน หากส่วนราชการใดที่ยังละเลย ไม่ดำเนินการ ปภ.ช. จะมีข้อสั่งการและรายงานต่อผู้บัญชาการ บก.ปภ.ช. เพื่อพิจารณาตามการบังคับบัญชาทันที