เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 ก.พ. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกรายการโทรทัศน์เทปแรก ชื่อรายการ “โอกาสไทยกับนายกฯ แพทองธาร” #EmpoweringThais ซึ่งออกอากาศทุกวันอาทิตย์ต้นเดือนทุกเดือน ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT HD2 และวิทยุเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอเล่าให้ฟังแบบสบายๆ ว่าทำไมถึงทำรายการนี้ขี้นมาและทำไมถึงอยากให้ประชาชนได้ฟังจากตัวดิฉันเอง รายการนี้คิดกับทีมงานต้องการให้เป็นรายการพิเศษสำหรับประชาชน เป็นรูปแบบรายการที่ไม่ได้ทำที่ไหนมาก่อน ไม่เคยได้สัมภาษณ์แบบนี้ ไม่เคยได้พูดคุยแบบนี้ถ้าใครได้รับชม ได้รับฟังในรายการนี้ถือว่าเอ็กซ์คลูซีฟมากๆ ในเรื่องการทำงานของรัฐบาลและการทำงานของตัวนายกฯ เอง จะเอาเบื้องหลังมาเล่าให้ฟังว่าได้พบเจออะไรบ้าง รวมถึงจะอธิบายถึงที่มาที่ไปของนโยบาย หรือขั้นตอนของแต่ละนโยบายว่าถึงไหน ก็อยากจะมาอัปเดตในรายการนี้ให้ฟัง
จากนั้นนายกฯ เล่านโยบายของรัฐบาลเรื่องแรก 30 บาทรักษาทุกที่ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว ตอนนี้ได้ผลตอบรับกลับมาดีมาก ซึ่งหากใครมีระบบตรงไหนที่ไม่ตอบสนองก็ขอให้แจ้งมาทางรัฐบาลได้ เรื่องที่ 2 นโยบาย ODOS (โอดอส) 1 อำเภอ 1 ทุน ถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก อยากให้น้องๆ ในทุกที่ได้มีโอกาสได้เรียน เรื่องที่ 3 โครงการ 1 อำเภอ 1 ซัมเมอร์แคมป์ เป็นโครงการที่มองเห็นโอกาสศักยภาพเด็กไทยเปิดโอกาสให้ได้ไปต่างประเทศ อาจจะไม่ได้เห็นผลภายใน 1 ปี แต่จะเห็นผลภายในอนาคต ถ้าเราไม่คิดในอนาคตภายใน 10 ปี 20 ปีมันจะไม่ทัน
นายกฯ เล่าถึงเรื่องที่ 4 บ้านเพื่อคนไทย เรื่องนี้ได้รับการตอบรับดีมาก เราอยากให้คนมีศักยภาพในการทำงานมีที่อยู่อาศัย เรื่องที่ 5 กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ ดีใจมาตั้งแต่ก่อนเข้าการเมืองก็ทราบเรื่องนี้มาตลอด และก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนในหลายกลุ่ม การเมืองมีฝักมีฝ่าย แต่ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างเห็นว่าทุกคนเห็นด้วยตรงกัน
นายกฯ ยังเล่าถึงภารกิจเดินทางไปต่างประเทศเข้าร่วมประชุม World Economic Forum ปี 2025 หรือ WEF 2025 เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 15-19 ม.ค.ที่ผ่านมา แน่นอนว่าผู้นำประเทศใหม่ก็ไป ปีนี้เป็นปีแรกที่ไป รู้สึกว่าการมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสามารถดึงความสนใจของคนได้จริงๆ คนก็อ้าว นายกฯ มาเหรอ มาพูดคุยสิ เพราะว่าเป็นตัวจริงสามารถตัดสินใจได้ ปีหน้าก็จะไปอีกแน่นอน จะไม่ไปคนเดียวจะเอารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปด้วย เพราะปีนี้เอารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปดีมากๆ และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟสสอง กดปุ่มโอนเงินหมื่นเฟสสองให้ผู้สูงอายุ 3 ล้านคน พร้อมย้ำว่าเฟสสามมาแน่ แต่จะมากี่โมงรอกระทรวงการคลังแถลง ฤกษ์งามยามดีอยู่ที่กระทรวงการคลัง
นายกฯ ยังเล่าถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีมติผ่านร่างกฎหมายต่างๆ อาทิ ร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่…) พ.ศ. … จึงเรื่องนี้รัฐบาลจริงจังมาก เพราะอาเซียนทั้งหมด เห็นเรื่องนี้สำคัญ การที่เราออก พ.ร.ก. เรื่องนี้มาเพื่อจะเคลียร์ปัญหา จับและเพิ่มบทลงโทษ การหลอกลวงทางออนไลน์ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก มีคนพูดว่าทำไมไม่รอออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) มันรอได้ แต่เรื่องนี้มันรอไม่ได้ คนหมดตัวและบางคนต้องจบชีวิตกับเรื่องนี้ ฉะนั้นเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นและเร่งด่วน จึงมีการพูดคุยกันใน ครม. หากออกเป็น พ.ร.บ. ใช้เวลานานมาก
ในช่วงท้ายนายกฯ กล่าวถึงกำลังใจในทุกวันว่า “มีหัวใจ ถ้าโดนว่า โดนอะไรเสียใจแน่นอน รู้สึกแน่นอน แต่จมไม่ได้ เพราะว่างานรออยู่เยอะมาก โดนว่านาทีนี้ นาทีหน้าต้องไปประชุมแล้วค่ะ จริงๆ แล้วพยายามมองว่าหัวข้อไหนที่เขาว่า เช่น ประชาชนไม่พอใจการจัดการเรื่องนั้น เรื่องนี้ โอเคกลับมานึกแล้วว่ายังไง เรียกทีมมาคุย เรียกกระทรวงมาคุยจัดการ อันนี้ยังไม่เข้มข้นพอ ยังไม่พอ จัดการทำไป แต่ว่าถ้าเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น เช่น เสื้อผ้า หน้าผม การแต่งตัว (หัวเราะ) ที่ถูกบูลลี่มาโดยตลอด ก็ไม่ได้คิดอะไร เวลาที่นโยบายทุกอย่างทำสำเร็จ ความภูมิใจของดิฉัน คือ ประชาชนแฮปปี้มากๆ กับนโยบายที่ได้ไป ชีวิตดีขึ้นจากนโยบายที่ทำสำเร็จ ขอบคุณรัฐบาลขอบคุณนายกฯ มันเติมเต็ม และมันรู้สึกว่าฉันก็จะแต่งตัวแบบนี้แหละ ไปทำงานแบบนี้ให้ประชาชนมีความสุข เพราะนี่เป็นฉันก็อย่างนั้นค่ะ”