ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เกมที่ 4 ของรอบแบ่งกลุ่ม ประจำวันพุธที่ 3 พ.ย. มีลงสนามกัน 8 คู่จาก 4 กลุ่ม โดยคู่เอกเป็นเกมในกลุ่ม B ซึ่ง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่จากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะเปิดรังแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ทีมแชมป์จากศึกลา ลีกา สเปน ซึ่งหากยอดทีมจากอังกฤษเก็บชัยชนะได้จะการันตีเข้ารอบน็อกเอาต์ทันที โดยเกมนี้ลงสนามฟาดแข้งกันในเวลา 03.00 น. ถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์ และ AIS PLAY ช่อง beIN SPORTS 1

“หงส์แดง” ของกุนซือ เจอร์เกน คลอปป์ อยู่ในช่วงฟอร์มดีต่อเนื่อง ไม่แพ้ใครมา 21 เกมติดในทุกรายการ แต่ล่าสุดสะดุดได้แค่เสมอ ไบรท์ตัน 2-2 ในบ้าน ในเกมลีกเมื่อวันเสาร์ ส่วนในถ้วยนี้ พวกเขาชนะมา 3 เกมรวด เก็บ 9 แต้มเต็มนำเป็นจ่าฝูง ล่าสุดเพิ่งบุกชนะ แอตเลติโก มาดริด 3-2 เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ขณะที่ความพร้อมเกมนี้ ทีมมีปัญหาในแผงมิดฟิลด์ หลัง เจมส์ มิลเนอร์, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และ นาบี เกอิตา บาดเจ็บทั้งหมด และต้องรอเช็กว่า ฟาบินโญ และ ติอาโก อัลคันทารา ที่กลับมาซ้อมแล้วจะฟิตพอลงสนามได้หรือไม่ ส่วนที่เหลือพร้อมลงสนามทั้งหมด

11 ตัวจริงที่คาดของ “หงส์แดง” มี อลิสซอน เบคเกอร์ เฝ้าเสา เกมรับใช้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เล่นคู่กับ โฌแอล มาทิป โดยมี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เป็นฟูลแบ๊ก แดนกลางใช้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เล่นร่วมกับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ เคอร์ติส โจนส์ ส่วนแนวรุกใช้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ประสานงานกับ ซาดิโอ มาเน และ ดีโอโก โชตา

ด้าน “ตราหมี” ของกุนซือ ดีเอโก ซิเมโอเน ทำผลงานในลีกช่วงหลังไม่ดีนัก 3 นัดหลังสุดชนะเกมเดียว คือเกมล่าสุดที่เปิดรังทุบ รีล เบติส 3-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังได้แค่เสมอมา 2 เกมติด เวลานี้อยู่ที่ 4 ของตาราง ส่วนในถ้วยนี้ พวกเขาชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 จาก 3 เกมแรก มี 4 แต้มรั้งรองจ่าฝูงของกลุ่ม ล่าสุดพ่าย “หงส์แดง” 2-3 คาบ้านเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ส่วนความพร้อมของทีม เกมนี้จะไม่มี อองตวน กรีซมันน์ และ สเตฟาน ซาวิช ที่ติดโทษแบน ขณะที่ มาร์กอส ยอเรนเต, โตมาส์ เลอมาร์ และ เจฟฟรีย์ ก็องดอกเบีย มีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งหมด

11 ตัวจริงที่คาดของ “ตราหมี” เกมนี้ แยน โอบลัค รับหน้าที่เฝ้าเสาเหมือนเดิม เกมรับใช้ เฟลิเป เล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ โฮเซ ฮิเมเนซ และ มาริโอ เอร์โมโซ แดนกลางใช้ โรดริโก เดอ ปอล เล่นร่วมกับ โกเก โดยมี คีแรน ทริปเปียร์ กับ ยานนิก การ์ราสโก ขึ้นเกมริมเส้น ส่วนแนวรุกใช้ เจา เฟลิกซ์ ประสานงานกับ อังเคล กอเรอา และ หลุยส์ ซัวเรซ

สำหรับสถิติการเจอกัน คู่นี้ดวลกันมาทั้งหมด 7 นัด โดยเป็น แอตเลติโก มาดริด ที่ทำได้ดีกว่า ชนะได้ 3 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง และ ลิเวอร์พูล ชนะ 2 ครั้ง โดยเฉพาะเกมในรอบ 16 ทีมสุดท้ายซีซั่นที่แล้ว ที่ “ตราหมี” ชนะไปกลับเหย้า-เยือน เขี่ย “หงส์แดง” ร่วง แต่ในเกมล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเป็นทีมดังแดนผู้ดีที่บุกถอนแค้นเฉือนชนะ 3-2

โปรแกรมคู่อื่น กลุ่ม A แอร์เบ ไลป์ซิก – ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, แมนเชสเตอร์ ซิตี – คลับ บรูช, กลุ่ม B เอซี มิลาน – ปอร์โต, กลุ่ม C โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ – อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, สปอร์ติง ลิสบอน – เบซิคตัส, กลุ่ม D รีล มาดริด – ชัคตาร์ โดเนตส์ค, เชอริฟฟ์ – อินเตอร์ มิลาน

เครดิตภาพ : AP