เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 68 น.ส.พิมพฤดา ตันจรารักษ์ สส.พระนครศรีอยุธยา เขต 3 พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมา ตนได้หารือถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร ผ่านไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไข ใน 3 ประเด็น ดังนี้ ประเด็นที่ 1 เนื่องจาก จ.พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ทํานามากกว่า 800,000 ไร่ มีเกษตรกรทํานา มากกว่า 35,000 ราย เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนและนายประดิษฐ์ สังขจาย สส.พระนครศรีอยุธยา พรรคภูมิใจไทย ได้รับหนังสือร้องเรียนจากพี่น้องชาวนา 3 ประเด็นคือ ราคาข้าวตกต่ำมาก ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงแพงมาก ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมาก ตอนข้าวแพง ปุ๋ยก็แพง แต่ตอนนี้ข้าวราคาถูก ปุ๋ยก็ยังแพงเหมือนเดิม ชาวนาจึงจะอยากให้รัฐบาลช่วยผลักดันโครงการที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ทํานาบ้าง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาให้มีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน คือการประกันราคาข้าว เพื่อเป็นการรับประกันรายได้ของพี่น้องชาวนา
น.ส.พิมพฤดา กล่าวว่า ประเด็นที่ 2 ขอให้รัฐบาลเยียวยาให้ค่าเสียโอกาสในด้านการใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเกษตรกรผู้ทํานาในพื้นที่รับน้ำ เพราะใน จ.พระนครศรีอยุธยา มีทุ่งรับน้ำอยู่ 7 ทุ่ง ในพื้นที่อื่นถ้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน เราสามารถใช้ประโยชน์ที่ดิน 1 ปี 12 เดือนเต็ม แต่ชาวนา จ.พระนครศรีอยุธยา สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินตัวเองได้เพียง 8-9 เดือน เพราะเวลาที่เหลืออีกร้อยกว่าวัน ถูกบังคับให้รับน้ำ และให้ความร่วมมือกับกรมชลประทานให้เป็นพื้นที่รับน้ำ เพื่อชะลอน้ำ จึงอยากถามกลับไปยังกรมชลประทานเช่นกัน ว่าจะต้องให้เกษตรกรผู้ทํานาของ จ.พระนครศรีอยุธยา เสียสละไปถึงเมื่อไหร่ อย่างน้อยควรจะมีค่าชดเชยในช่วงที่พี่น้องเกษตรกรเสียโอกาสไป
น.ส.พิมพฤดา กล่าวอีกว่า ประเด็นที่ 3 ในปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายไม่ให้ชาวนาเผาตอ เผาซังข้าว ซึ่งชาวนาพยายามให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่การกําจัดด้วยวิธีการอื่นๆ ก็เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย และในช่วงเวลาที่ราคาข้าวไม่ดีแบบนี้ จึงอยากจะเสนอให้รัฐบาลหาวิธีในการช่วยชาวนากําจัดตอซังข้าว หรือชดเชยค่าใช้จ่ายให้กับชาวนาด้วย
“ดิฉันในฐานะผู้แทนของคน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงอยากจะเรียกร้องผ่านท่านประธาน ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ฝากช่วยพิจารณา ช่วยหาแนวทางการช่วยเหลือชาวนา ผู้ที่เป็นผู้ผลิตอาหารหลักของประเทศเราด้วย” น.ส.พิมพฤดา กล่าว.