สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ว่า การสู้รบในสงครามที่ดำเนินมานานเกือบ 3 ปี ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ให้คำมั่นสัญญาว่าจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอย่างรวดเร็ว หลังเขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา

กองทัพอากาศยูเครนระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 4 ราย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในการโจมตีด้วยระเบิดนำวิถีทางอากาศของรัสเซีย โดยมีเป้าหมายเป็นอาคารเรียนเก่า ซึ่งเป็นที่พักพิงของพลเรือนในเมืองซุดชา อีกทั้งยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 คน และผู้รอดชีวิตอีก 80 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือออกจากซากอาคาร

ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวหารัสเซียว่า “ไร้มารยาท” พร้อมกับแชร์คลิปวิดีโอหนึ่งบนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเผยให้เห็นอาคารที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก รวมถึงชายคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บ นอนอยู่บนพื้น

อย่างไรก็ตาม รัสเซียกล่าวโทษยูเครนในการโจมตีครั้งนี้ โดยระบุว่า ทางการได้เปิดคดีอาญากับผู้บัญชาการชาวยูเครนคนหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลมอสโกชี้ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุในแถลงการณ์ กล่าวหารัฐบาลเคียฟว่า “ก่ออาชญากรรมสงครามโดยไม่มีอายุความ” ด้วยการโจมตีโรงเรียนแห่งนี้

อนึ่ง พล.ท.คีธ เคลลอกก์ ผู้แทนพิเศษด้านกิจการยูเครนและรัสเซีย ของประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเดินทางกลับจากการเยือนยูเครนเมื่อไม่นานมานี้ กล่าวเป็นนัยว่า ทั้งสองฝ่ายจะต้องประนีประนอมต่อกัน เพื่อยุติสงคราม และนั่นอาจรวมถึงการที่รัฐบาลเคียฟ ต้องยอมสละดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครองด้วย.

เครดิตภาพ : AFP