เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ สภ.ชานุมาน อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ และพ.ต.ท.ฤกษ์มงคล ตังวัฒนา หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจ ภ.จว.อำนาจเจริญ แถลงผลการจับกุมขบวนการยาเสพติด โดยสามารถยึดยาบ้าได้ถึง 7 แสนเม็ด

พล.ต.ท.วัฒนา เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบกระสอบต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณสวนมันสำปะหลัง บริเวณริมถนนระหว่างบ้านสามแยกชมภู มุ่งหน้าไปบ้านนาป่าแซง ต.นาป่าแซง อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่จุดดังกล่าวพบกระสอบปุ๋ย 3 ใบ ภายในบรรจุยาบ้า 5 แสนเม็ด จึงนำกระสอบดังกล่าววางไว้จุดเดิมและเฝ้าซุ่มดู จนกระทั่งมีรถกระบะเซฟโรเล็ต สีขาว ขับมาจอดที่จุดและมีชาย 2 คน ลงมาจากรถเพื่อจะนำกระสอบยาบ้าเข้าไปในรถ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายตาล ส่วนชายอีกรายอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปได้

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.ชานุมาน ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติดได้อีก 3 คน พร้อมของกลางยาบ้าอีก 2 แสนเม็ด บริเวณป่าอ้อย อ.ปทุมราชวงศา ห่างจากจุดแรก 10 กิโลเมตร เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากชาวลาวให้มารับยาที่จุดดังกล่าว เพื่อนำยาไปกระจายตามจุดต่างๆในภาคอีสาน

โดยยาบ้าลอตนี้อาศัยช่วงที่ภายในจังหวัดมีการจัดการเลือกตั้ง นายก อบจ.ลำเลียงยามาขึ้นไว้ที่จุดดังกล่าว เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะไม่เคร่งครัดมาก โดยยาบ้าลอตนี้มีมูลค่าเบื้องต้นอยู่ที่ 7 ล้านบาท แต่หากส่งถึงมือเอเย่นต์มูลค่าจะสูงเพิ่มขึ้นถึง 14 ล้านบาท เลยทีเดียว

“ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภากำหนดกรอบนโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีนำความปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรี และนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย ร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีมีอิทธิพล และยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยนั้น ผู้ผลิต,ผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด พร้อมทั้งควบคุมการลักลอบนำเข้ายาเสพติดมาในประเทศไทย และดึงประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” และ Stop & Destroy คือลำลายล้าง S&D ทำลายขบวนการให้สิ้นซาก และตามยึดทรัพย์ทุกราย ตามแนวชายแดน ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน” ผบช.ภ. 3 กล่าว.