ข่าวการเสียชีวิตของนางเอกสาวคนดังจากซีรีส์ F4 “บาร์บี้ ซู” ด้วยโรคปอดอักเสบที่เกิดจากไข้หวัดใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่า “ไข้หวัดใหญ่” ต่างจาก “ไข้หวัดทั่วไป” อย่างไร? และตอนไหนที่เราควรไปโรงพยาบาลเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่?

คุณหมอโหห่าวซวน หัวหน้าแผนกโสต ศอ นาสิกวิทยา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคาธอลิกฟู่เจน ไต้หวัน ชี้ให้เห็นว่า “ไข้หวัดใหญ่” และ “ไข้หวัดธรรมดา” แตกต่างกันในเรื่อง “ความเร็วในการป่วย ระดับความอ่อนแรง ระดับไข้ และอาการปวดกล้ามเนื้อ”

ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) “ไข้หวัด” มักจะมีอาการไม่รุนแรงเท่ากับ “ไข้หวัดใหญ่” ผู้ที่เป็นหวัดมีแนวโน้มที่จะมีน้ำมูกไหล หรือคัดจมูกมากกว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ โดยปกติแล้วโรคหวัดจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น ปอดบวม การติดเชื้อแบคทีเรีย จนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่ไข้หวัดใหญ่สามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้

นายแพทย์โหห่าวซวน กล่าวว่าไข้หวัดใหญ่มักจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยจะรู้สึกไม่สบายตัวในชั่วข้ามคืน อาการจะแย่ลงอย่างรวดเร็ว คุณอาจมีอาการไอเพียงคืนหนึ่ง แต่ในวันรุ่งขึ้น อาจรู้สึกไม่สบายตัวจนลุกจากเตียงไม่ได้

เขายังอธิบายด้วยว่า ไข้หวัดใหญ่มักมาพร้อมกับอาการอ่อนแรง ผู้ป่วยจะรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน แตกต่างจากไข้หวัดธรรมดาที่ทำให้เกิดความไม่สบายทางกายในระดับไม่รุนแรงมากนัก

สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ ไข้หวัดใหญ่มักมาพร้อมกับอาการไข้สูง อุณหภูมิร่างกายมักสูงเกิน 38 องศาเซลเซียส และคงอยู่แบบนั้นเป็นเวลาหลายวัน แต่ไข้หวัดธรรมดา จะมีไข้เพียงเล็กน้อย หรืออาจไม่มีไข้เลย

ทั้งนี้ นายแพทย์โหห่าวซวน ยังเตือนด้วยว่า อาการเจ็บคอไม่ใช่สัญญาณหลักของไข้หวัดใหญ่ โดยปกติแล้วอาการเจ็บคอจะไม่รุนแรง ส่วนไข้หวัดธรรมดาจะทำให้เกิดอาการเจ็บคอและคันคอ

อาการปวดกล้ามเนื้อและข้ออย่างรุนแรง มักเป็นอาการหนึ่งของไข้หวัดใหญ่ คนไข้จะรู้สึกว่ากล้ามเนื้อทุกมัดตึงเครียด ส่วนคนที่เป็นไข้หวัดธรรมดา จะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเพียงเล็กน้อย หรือไม่ปวดเลย

เมื่อไข้หวัดใหญ่รุนแรงมากพอ ผู้ป่วยจะมีไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ ไอแห้ง เหงื่อออก ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ เหนื่อย หอบ ปวดตา หายใจถี่ มีน้ำมูก จาม ท้องเสียและอาเจียน กินยาแก้ไข้ไปแล้วก็ไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน เจ็บหน้าอกเวลาไอหรือหายใจทุกครั้ง แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่จะมีภาวะแทรกซ้อน จำเป็นต้องรีบไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร่งด่วน.

ที่มาและภาพ : ETToday, Soha, roundsquid / Pixabay