เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอากาศ ภาพรวมปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ในประเทศ พบเกินค่ามาตรฐาน ใน จ.ปทุมธานี กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.เชียงราย จ.น่าน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ราชบุรี จ.สมุทรสงคราม จ.เพชรบุรี จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.ตราด จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จ.อำนาจเจริญ จ.ชัยภูมิ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์

ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 14 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 12.8-61.1 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 36.2-69.9 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 25.8-75.5 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 30.3-60.4 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 18.2-36.9 มคก./ลบ.ม. กทม.และปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ​ ​กทม. เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 34.2-61.6 มคก./ลบ.ม. ศกพ. ขอแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 มีแนวโน้มจะบรรเทาลงได้ในช่วงระยะสั้น ระหว่างวันที่ 4-5 ก.พ. แล้ว

หลังจากนั้นสถานการณ์จะมีแนวโน้มกลับมาสูงอีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่ กทม.และปริมณฑล/ภาคตะวันออก/ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ/ภาคกลางตอนบน/ภาคเหนือตอนล่าง โดยต้องเฝ้าระวังจนถึงวันที่ 9 ก.พ. เนื่องจากอากาศที่นิ่งและจมตัว เกิดสภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น ทำให้อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ ร่วมกับลมที่มีความแปรปรวนในช่วงนี้ โดยมีลมทิศใต้และตะวันออกเฉียงใต้พัดแทรกบางเวลา ส่วนลมทางตอนเหนือจะเป็นลมตะวันตก

ประกอบกับข้อมูลจุดความร้อนที่ยังพบการเผาในหลายพื้นที่ ข้อมูลจาก GISTDA พบว่า วันที่ 2 ก.พ. 2568 พบจุดความร้อนทั้งสิ้น 1,162 จุด ส่วนมากพบในพื้นที่ป่าเป็นหลัก 693 จุด รองลงมาคือพื้นที่เกษตร ซึ่งพื้นที่ที่พบเจอการเผาส่วนมากพบที่ภาคเหนือ ภาคกลาง/ตะวันตก และบางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ ศกพ. ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับการกำกับ ควบคุมแหล่งกำเนิดฝุ่นอย่างเข้มงวด เพื่อบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์

ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ ลดกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันตัวเองเมื่อออกนอกบ้าน ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข วางแผนการทำงานล่วงหน้า (Work From Home) หากพบเจอการเผาขอให้แจ้งภาครัฐเพื่อดับไฟและควบคุมจุดความร้อน โดยหลายจังหวัดในขณะนี้เริ่มมีประกาศห้ามเผาในที่โล่ง เพื่อเป็นกลไกทางกฎหมายในการควบคุมจุดความร้อน ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองได้ผ่านเว็บไซต์ Air4Thai.pcd.go.th หรือ ทางแอปพลิเคชัน Air4Thai