เมื่อวันที่ 4 ก.พ. เวลา 09.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงพื้นที่ชายแดน จ.ตาก ว่า รัฐบาลจีนได้ทำหนังสือมายังสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย แล้วส่งมาที่กระทรวงยุติธรรม โดยผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงฯ มาเยี่ยมคารวะ และถือโอกาสมาพูดคุยถึงความร่วมมือเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงการฉ้อโกงทางออนไลน์ และทราบว่าจะไปพบหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย อาทิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกระทรวงกลาโหม ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรม ถือเป็นวาระเร่งด่วนที่จะแก้ปัญหายาเสพติด อาชญากรรมทางออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยยุทธวิธีหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ คืออาจต้องยกระดับทวิภาคี นอกจากอาเซียนที่เข้มแข็งแล้ว จะต้องยกระดับทวิภาคีรูปแบบใหม่ คืออาเซียนบวกจีนเข้าไป ในการแก้ปัญหา

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายหลิวยังได้ให้ข้อมูลเป็นคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการกระทำผิดของประเทศเพื่อนบ้าน ที่เป็นศูนย์กลางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งได้ส่งเรื่องให้ดีเอสไอและ ป.ป.ส. ไปขยายผล โดยเห็นว่ามาตรการทางกฎหมายที่ไทยอยู่ จะมีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความร่วมมือการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ โดยอาจต้องดึงอัยการสูงสุดเข้ามาร่วม เพราะเป็นเหตุเกิดนอกราชอาณาจักร ก็เข้าข่าย พ.ร.บ.อาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ว่าต้นทาง ปลายทาง หรือทางผ่าน สามารถดำเนินคดีได้ โดยเฉพาะเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกิดกับจีน ฮ่องกง โดยประเทศไทยเป็นทางผ่าน และได้มีการประสานขอความช่วยเหลือ และจากการสอบถามพบว่าเป็นคนชาติเดียวกันหลอกลวงกันเอง

เมื่อถามว่ามีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ทางจีนใช้คำว่ามีการพูดภาษาไทย แต่เขาเชื่อว่าเป็นคนจีนที่ฝึกพูดไทย แต่มีสำเนียงจีน นอกจากนี้ ทางการจีนจะเข้าไปในพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้าน เพราะมีศักยภาพกว่าไทย ทั้งสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา และ ชเวโก๊กโก่ ประเทศเมียนมา เพราะคนของจีนถูกหลอกลวงไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการสั่งย้ายผู้กำกับสถานีตำรวจใน 3 อำเภอใน จ.ตาก หลังการลงพื้นที่ของนายหลิว พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องไปถามตำรวจ เพราะกระทรวงยุติธรรมแค่ประสานความร่วมมือการข่าวกัน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ว่านายหลิวตำหนิเจ้าหน้าที่ไทยว่าไม่ดูแลบ้านเมืองของตัวเอง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เขาไม่ได้ตำหนิไทย แต่มาขอบคุณและชื่นชม เรื่องนี้อาจจะมีมุมมองเพื่อโจมตีรัฐบาล แต่จริงๆ มาขอบคุณรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสกัด การช่วยเหลือคนของเขา เพราะการหลอกลวง ไม่ได้หลอกลวงโดยประเทศไทย แต่เป็นคนชาติเดียวกันหลอกลวงกันเอง พร้อมยืนยันไม่มีการตำหนิเจ้าหน้าที่ไทย อีกทั้งอยากยกระดับการทำงานให้ดีขึ้น ซึ่ง นายหลิวก็บอกว่าต้องทำอาเซียนให้เกิดความเข้มแข็ง และบวกจีน เพราะจีนไม่ได้อยู่ในอาเซียน ซึ่งวันนี้เรามีอาเซียนบวกสาม ในเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ คืออาเซียน บวกจีน บวกญี่ปุ่น และบวกเกาหลีใต้ ซึ่งต้องยอมรับว่าการหลอกลวงเป็นยุคดิจิทัลแล้ว ต้องใช้ภาษาเดียวกัน คนที่จะหลอกลวงก็ต้องเป็นคนที่ใช้ภาษาเดียวกัน สิ่งสำคัญที่สุด เราต้องยกระดับเรื่องความปลอดภัยของประชาชนในประเทศอาเซียน