เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายการเมือง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่..) พ.ศ. … เพื่อลดภาระค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีบางประการที่ไม่จำเป็นให้เหมาะสมมากขึ้น อาทิ ยกเลิกค่าธรรมเนียมเมื่อยึดหรืออายัดเงินหรืออายัดทรัพย์สินแล้ว ไม่มีการขายหรือจำหน่าย การปรับลดค่าธรรมเนียมบังคับคดีในครั้งนี้จะเอื้อให้การไกล่เกลี่ยและการปรับโครงสร้างหนี้มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น อีกทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน แบ่งเบาภาระประชาชนในการดำเนินคดี และสนับสนุนให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้ให้มากขึ้น จะช่วยลดปริมาณในการบังคับคดีในชั้นบังคับคดี และหลังจากนี้ ครม.มีมติเห็นชอบแล้ว จะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นวาระแรก
นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว มีดังนี้ 1.กำหนดค่าธรรมเนียมการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายโดยวิธีอื่นซึ่งทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัด เดิมคิด 3 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 2 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินที่ขายหรือจำหน่าย 2.ค่าธรรมเนียมการจ่ายเงินที่ยึดหรืออายัดแก่เจ้าหนี้ เดิมคิด 2 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินที่ยึดหรืออายัด 3.ค่าธรรมเนียมการยึดทรัพย์สินซึ่งไม่ใช่ตัวเงินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย เดิมคิด 2 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินที่ยึดหรืออายัด ปรับใหม่เป็นไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 4.ค่าธรรมเนียมการยึดหรืออายัดเงินหรืออายัดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย เดิมคิด 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินที่ยึดหรืออายัด หรือราคาทรัพย์สินที่อายัด ปรับใหม่เป็นไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 5.ค่าธรรมเนียมการขายโดยวิธีประมูลระหว่างคู่ความ เดิมคิด 2 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 1 เปอร์เซ็นต์ของราคาประมูลสูงสุด
ด้าน น.ส.ศรินทร เลืองวัฒนะวณิช โฆษกกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ปัจจุบันมีหมายบังคับคดีในคดีแพ่งที่ส่งให้กรมบังคับคดี จำนวน 4,199,425 คดี ซึ่งแบ่งเป็นหมายบังคับคดีที่เจ้าหนี้ไปตั้งเรื่องทำการยึดอายัดกับกรมบังคับคดีแล้ว 844,553 คดี และเป็นหมายบังคับคดีที่รอเจ้าหนี้ไปขอยึดอายัดทรัพย์สินของลูกหนี้อีก 3,354,872 คดี ซึ่งในจำนวนหมายบังคับคดีทั้งหมด 844,553 คดี ที่เจ้าหนี้ดำเนินการยึดอายัดอยู่ขณะนี้นั้น มีทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 1 ล้านบาท ส่วนคดีที่เจ้าหนี้ยังไม่ตั้งเรื่องยึดอายัดทรัพย์ของลูกหนี้ทั้งหมด 3,354,872 คดี มีทุนทรัพย์ตามหมายบังคับคดี ทั้งสิ้น 16.93 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม ถ้ากฎหมายฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ จะทำให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมของกระทรวงยุติธรรมลดลง จากเดิมเฉลี่ยปีละ 1,500 ล้านบาท เหลือปีละ 500-600 ล้านบาท และส่งคืนเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป