วานนี้ (2 ก.พ. 2568) สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานผลการศึกษาเกี่ยวกับชิ้นส่วนพลาสติกขนาดเล็กที่เจือปนอยู่เนื้อเยื่อสมองของมนุษย์ พบว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นกว่าที่เคยสำรวจราว 50%
ผลการศึกษาวิจัยครั้งใหม่ระบุว่าตัวอย่างสมองมนุษย์ที่เก็บจากการชันสูตรศพโดยทั่วไปในช่วงต้นปี 2567 พบว่า ชิ้นส่วนพลาสติกขนาดเล็กจิ๋วหรือนาโนพลาสติกที่ปนอยู่ในสมองมีปริมาณมากกว่าที่เคยเก็บได้จากตัวอย่างสมองเมื่อแปดปีก่อน
แมททิว แคมเพน หนึ่งในทีมผู้เขียนรายงานร่วมวิจัย ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์เภสัชกรรมที่มหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโกในเมืองอัลบูเคอร์คี กล่าวว่า โดยรวมแล้ว ตัวอย่างสมองของศพมีนาโนพลาสติกมากกว่าในไตและตับตั้งแต่ 7-30 เท่า
“ความเข้มข้นที่เราพบในเนื้อเยื่อสมองของบุคคลปกติ ซึ่งมีอายุเฉลี่ยประมาณ 45 หรือ 50 ปี อยู่ที่ 4,800 ไมโครกรัมต่อกรัม หรือ 0.48% ตามน้ำหนัก” แคมเพนกล่าวถึงความเข้มข้นในการเจือปนของนาโนพลาสติกในสมอง ปริมาณดังกล่าวเทียบเท่าได้กับพลาสติกที่ใช้ทำช้อนขนาดมาตรฐานหนึ่งคัน
“เมื่อเทียบกับตัวอย่างสมองจากการชันสูตรศพในปี 2559 พบว่ามีปริมาณสูงกว่าประมาณ 50%” เขากล่าว “นั่นหมายความว่าสมองของเราในปัจจุบันประกอบด้วยสมอง 99.5% และส่วนที่เหลือเป็นพลาสติก”
อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ที่วิธีการวัดพลาสติกในร่างกายในปัจจุบันอาจประเมินระดับพลาสติกในร่างกายออกมาสูงหรือต่ำเกินไป แคมเพนกล่าวว่า “เรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้การประเมินที่แม่นยำ ซึ่งผมคิดว่าเราน่าจะทำได้ภายในปีหน้า”
นักวิจัยยังพบสิ่งที่มีลักษณะคล้ายเศษพลาสติกเพิ่มขึ้น 3-5 เท่าในสมองของผู้ป่วย 12 รายที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อมก่อนเสียชีวิตเมื่อเทียบกับสมองคนปกติ เศษพลาสติกเหล่านี้มีขนาดเล็กกว่าที่ตาจะมองเห็นได้และกระจุกตัวอยู่ในผนังหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำของสมอง รวมถึงในเซลล์ภูมิคุ้มกันของสมองด้วย
“มันน่าตกใจนิดหน่อย แต่โปรดจำไว้ว่าโรคสมองเสื่อมเป็นโรคที่ทำให้กลไกการกั้นเลือดจากสมองและกำจัดของเสียเสื่อมลง” แคมเพนกล่าว
นอกจากนี้ โรคสมองเสื่อมยังทำให้มีเซลล์อักเสบและเนื้อเยื่อสมองที่ฝ่อลง ซึ่งอาจทำให้เกิด “แหล่งกักเก็บพลาสติก” แคมเพนกล่าว “เราอยากจะระมัดระวังมาก ๆ ในการตีความผลลัพธ์เหล่านี้ เนื่องจากโรคนี้ (ภาวะสมองเสื่อม) มีแนวโน้มที่จะทำให้มีปริมาณไมโครพลาสติกสูงขึ้น และในปัจจุบัน เราไม่ได้ระบุว่าไมโครพลาสติกอาจทำให้เกิดโรคนี้ได้”
ฟีบี้ สเตเปิลตัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านเภสัชวิทยาและพิษวิทยาที่มหาวิทยาลัยรัตเกอร์สในเมืองพิสคาตาเวย์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษาวิจัยใหม่นี้กล่าวว่า การพบตะกอนพลาสติกในสมองไม่ได้พิสูจน์ว่าพวกมันก่อให้เกิดความเสียหายต่อสมอง
“ยังไม่ชัดเจนว่า ในสิ่งมีชีวิต อนุภาคเหล่านี้เป็นของเหลวที่เข้าและออกจากสมองหรือไม่ หรือพวกมันไปสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อของระบบประสาทและไปเสริมให้เกิดโรคขึ้น” เธอกล่าว “จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจว่า อนุภาคเหล่านี้มีปฏิกิริยาโต้ตอบกับเซลล์อย่างไร และส่งผลกระทบที่เป็นพิษหรือไม่”
แคมเพนกล่าวว่า ที่จริงแล้ว นักวิจัยพบสัญญาณว่าตับและไตของร่างกายอาจสามารถขับพลาสติกบางส่วนออกจากร่างกายได้ แต่ยังไม่รู้แน่ชัดว่า สมองจะทำแบบเดียวกันได้หรือไม่
ที่มา : edition.cnn.com
เครดิตภาพ : Photo by Nick Fewings on Unsplash