วันที่ 4 ก.พ. ชาวบ้านอำเภอหนองเสือ จ.ปทุมธานี ต่างฮือฮากันเป็นอย่างมาก หลังทราบข่าวมีหลวงตา อายุ 64 ปี และหลวงพี่อีก 2 รูป ซึ่งเป็นพระลูกวัดโปรยฝน คลอง 11 อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี โดนรถยนต์ชนกระเด็น ระหว่างออกเดินบิณฑบาตช่วงเช้ามืดเวลา 05.30 น.ตามเวลาปกติ ที่บริเวณสะพานสีชมพูภายในคลอง 11 ฝั่งมุ่งหน้าขาออกถนนรังสิต-นครนายก โดยถูกรถเก๋ง มาสด้า สีดำ คนขับอายุ 25 ปี พุ่งเข้าชนกลุ่มพระสงฆ์ทั้ง 3 รูป อย่างเต็มแรงจนรถเข็นที่ใส่อาหารปิ่นโตคว่ำกระเด็นตกข้างทาง ร่างของหลวงตาปลิวลอยกระเด็นฟาดกระจกหน้ารถจนแตก ก่อนไถลลงมานอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นถนน ส่วนหลวงพี่อีก 2 รูป ก็กระเด็นไปคนละทิศคนละทาง บาดเจ็บเล็กน้อย ชาวบ้านได้ยินเสียงรีบออกมาดูและเข้าช่วยเหลือ พร้อมแจ้งตำรวจและกู้ภัยมานำตัวหลวงตาส่งเข้ารักษาตัวฉุกเฉิน รพ.มศว.คลอง 16

ต่อมา หลวงตาเรือน อายุ 64 ปี ที่เป็นผู้บาดเจ็บเล่าว่า วันที่เกิดเหตุอาตมาและหลวงพี่อีก 2 รูป ได้เดินออกรับบิณฑบาตจากชาวบ้านกันทุกเช้ามืดตามปกติ พากันเข็นรถเข็นที่ใช้ใส่ของรับบาตร เดินริมชิดขอบทางเริ่มต้นออกจากวัดโปรยฝน คลอง 11 เวลา 05.00 น.มุ่งหน้าปากทางถนนเลียบคลองรังสิต-นครนายก ระยะทางเกือบ 7 กิโลเมตร ซึ่งจะเดินข้ามมาอีกฝั่งหนึ่งเพื่อที่จะกลับวัด แต่ระหว่างทางที่พากันเดินบิณฑบาตออกจากวัดมาได้เพียง 2 กิโลเมตร พอมาถึงจุดเกิดเหตุช่วงสะพานสีชมพู ภายในคลอง 11 ก็ได้มีรถเก๋งสีดำของคู่กรณีคันดังกล่าวพุ่งชนกวาดเรียบมาจากทางด้านหลัง ชนแรงจนตัวอาตมาลอยกระเด็นตัวปลิวหัวแตกไปฟาดเข้ากับกระจกรถอย่างจัง แล้วหล่นลงกระแทกกับพื้นจมกองเลือดไหลอาบเต็มจีวรเลย ในใจคิดว่าคงไม่รอดแน่แล้ว มันเป็นชั่วพริบตาเดียวเอง ไม่ทันตั้งตัวเลย รู้สึกแค่ว่ามีอะไรมาชนกระแทกเข้าด้านหลัง มองเห็นทุกอย่างหมุนมืดไปหมด

“วินาทีนั้น ในใจคิดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเหรียญพลิกชะตาของอาจารย์ กุ่ย เกจิดัง ที่อาตมาเหน็บพกติดตัวมาตลอด ให้ช่วยอย่าให้เป็นอะไรหนักเลย ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ สักพักก็มีชาวบ้านและกู้ภัยเข้าช่วยเหลือนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาล ตอนนี้อาการปลอดภัย เบื้องต้นพบว่ากระดูกต้นคออักเสบ ร้าวจากแรงกระแทรก ต้องใส่เฝือกรอดูอาการ หลังเอ็กซ์เรย์แล้วไม่พบว่ามีแขนขาหักแต่อย่างใด ส่วนตนเชื่อว่าเป็นเหรียญของอาจารย์กุ่ยช่วยชีวิตให้รอดตายเอาไว้”