เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 68 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนพดล สมยานนทนากุล ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ พรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมด้วยนายจักรพันธ์ุ จินตนาพากานนท์ ผู้สมัครนายก อบจ.นครนายก พรรคประชาชน เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. เกี่ยวกับการเลือกตั้ง อบจ. โดยนายจักรพันธ์ ยื่นคำร้องให้ กกต. สั่งนับคะแนนใหม่ เพราะมีความผิดปกติในเขตเลือกตั้งที่ 1 อ.องครักษ์ จ.นครนายก ที่มีผู้มาใช้สิทธิ 6,449 คน แต่กลับเป็นบัตรเสียกว่า 1,096 ใบ จึงถือว่ามีบัตรเสียถึง 1 ใน 6 ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก ที่ทุกๆ 6 คน จะกาบัตรเสีย 1 คน อีกทั้งคะแนนระหว่างตนกับผู้ชนะก็ห่างกันเพียง 900 กว่าคะแนน แต่กลับมีบัตรเสียกว่า 5,800 ใบ ที่ กกต. ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีการยื่นร้องต่อ กกต.นครนายก แล้ว และยอมรับว่าในระหว่างการนับคะแนน ทางผู้สังเกตการณ์ไม่ได้มีการทักท้วง เพราะอาจจะมองบัตรไม่ชัด นอกจากนี้ ยังเห็นว่ามีความผิดปกติในเรื่องของการส่งบัตรเลือกตั้งจากหลายหน่วยมายัง อบจ. มีความล่าช้า บางหน่วยมาถึงเที่ยงคืน ทั้งที่ระยะทางจากหน่วยมายัง อบจ. นั้น ไม่ได้ไกล
ด้านนายนพดล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ร้องคัดค้านการประกาศรับรองผลนายก อบจ.สมุทรปราการ ต่อ กกต.สมุทรปราการ ไปแล้ว เนื่องจากพบความผิดปกติ ในเรื่องของการนับคะแนน การรายงานผล แต่ที่ต้องมายื่นร้องต่อ กกต.กลางโดยตรงในวันนี้ เป็นเรื่องของการทุจริตซื้อเสียง ซึ่งชาวสมุทรปราการส่งข้อมูลและพยาน หลักฐาน มาให้ทางพรรค จึงต้องการให้ กกต. ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร หากเห็นว่ามีผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เที่ยงธรรม ก็ขอให้ประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ใน จ.สมุทรปราการ และอีกหลายจังหวัด ที่ทางพรรค ปชน. จะทยอยยื่นหลักฐานเข้ามา
“หลักฐานที่เราเตรียมมายื่นให้กับ กกต. ในวันนี้ เป็นเรื่องการซื้อเสียง 3 กรณี โดยทั้งพยาน บุคคล ที่พร้อมให้ถ้อยคำต่อ กกต. คลิปวิดีโอ ที่ประชาชนได้บันทึกไว้ในระหว่างการซื้อเสียง แชตไลน์ที่หัวคะแนนทักหาผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเกิดขึ้นในหลายอำเภอใน จ.สมุทรปราการ จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีการซื้อเสียงหัวละ 200 บาท ซึ่งมั่นใจว่า กกต. จะพิจารณาแน่นอน ส่วนกรณีอื่นก็จะมีการอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และจะมีการทยอยนำมายื่นต่อ กกต.” นายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวว่า ข้อมูลทุจริตดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่พรรคให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม เพราะเป็นก้าวแรกของประชาธิปไตยและการพัฒนาบ้านเมืองของเรา จึงได้มีการเปิดวอร์รูม เพื่อเป็นช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่พบความผิดปกติ โดยประชาชนได้มีการส่งข้อมูลเป็นจำนวนมาก โดยในส่วนของพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ตนก็ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตมายื่นในวันนี้
นายนพดล ยังมีการตั้งข้อสังเกตถึงระบบการรายงานผลการนับคะแนนแบบเรียลไทม์ของ กกต. ว่า ระหว่างการแสดงผลคะแนนทำไม กกต. จึงไม่นำเสนอจำนวนผู้มาใช้สิทธิรวมตั้งแต่ต้น แต่กลับมานำเสนอเมื่อผลการนับคะแนนต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ กกต. ก็มีเอกสารที่เรียกว่า 5/7 สามารถประกาศให้ประชาชนทราบได้เลยว่า ใน จ.สมุทรปราการ หรือจังหวัดอื่นๆ มีคะแนนรวมของผู้มาใช้สิทธิเท่าไหร่ สิ่งนี้เราถามโดยตลอดระหว่างที่มีการรายงาน แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจาก กกต. แต่ กกต. กลับรายงานจำนวนผู้มาใช้สิทธิเมื่อการนับจำนวนต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็เหมือนกับเป็นการบวกเลขเท่านั้นเอง จึงตั้งข้อสังเกตได้หรือไม่ว่า ทำแบบนี้เพียงเพราะไม่ต้องการให้เกิดการวิจารณ์จากประชาชนว่าเกิดบัตรเขย่งใน จ.สมุทรปราการ ตนก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเทคนิคของใครหรือไม่อย่างไร แต่สำหรับตนถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผิดปกติ ซึ่งในแง่การบริหารจัดการ ถ้า กกต.จัดการอย่างดี และตรงตามเจตนารมณ์ที่จะให้ประชาชนเห็นการทำงานที่โปร่งใส สิ่งที่เกิดขึ้นตนมองว่ายังไม่โปร่งใสมากพอ
นายนพดล กล่าวว่า นอกจากนี้การรายงานจำนวนบัตรเสียของ จ.สมุทรปราการ แบบเรียลไทม์ ก็พบความผิดปกติ โดยแต่ละช่วงเวลามีการเปลี่ยนไปของจำนวนบัตรเสียค่อนข้างมาก บางครั้งเปลี่ยนแบบเพิ่มสูงขึ้น แล้วสักพักจำนวนก็ลดลงมา ทำให้ประชาชนสับสน ถ้า กกต. จะบอกว่าเป็นความผิดพลาดส่วนบุคคลที่คีย์ข้อมูลผิด เชื่อว่าคำตอบแบบนี้ประชาชนรับไม่ได้ และทำให้ประชาชนเกิดคำถามว่าจะมั่นใจในทุกคะแนนที่ กกต. รายงานผลว่าจะไม่มีความผิดพลาดได้อย่างไร ดังนั้นคิดว่าเป็นความชอบธรรมที่เราจะขอตรวจสอบความถูกต้องในเรื่องดังกล่าวจาก กกต.