เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 ก.พ. ที่ถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปตรวจราชการและประชุมติดตามการปฏิบัติงานสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดและแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ภายหลังตัดไฟแล้วเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า เราเพิ่งตัดไฟฟ้า ยังสรุปอะไรไม่ได้ แต่พิจารณาแล้วชายแดนไทย ไม่น่ามีปัญหาอะไร สิ่งที่กระทบกับชายแดนมากน้อยแค่ไหนจะต้องประเมิน อย่างไรก็ตาม เรื่องความเสียหายทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นบ้าง เราก็ได้ประเมินแล้วถึงได้ตัดไฟ มันเป็นเรื่องใหญ่กว่า มันกระทบต่อคนทั้งประเทศ แหล่งกำเนิดมันอยู่ใกล้กับเรา และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อาชญากรรมเพิ่มขึ้น
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า วันแรกที่ตัดไป อาจจะไม่เห็นอะไร แต่ที่ชเวก๊กโก่ก็ลดลงไปเหลือ 40% อย่าเพิ่งสรุป การประเมินตอนนี้ เราประเมินตลอดที่ไปดูวันนี้ เพื่อจะได้เห็นจริง หลังจากนี้ไปต้องดูว่าคดีคอลเซ็นเตอร์ลดลงหรือไม่ กระบวนการมีปัญหามากหรือไม่ คนออกมามากน้อยแค่ไหน
เมื่อถามถึงการซื้อไฟฟ้าจากประเทศลาว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของเขา เหมือนกับเป็นอธิปไตยในประเทศเขา เขาอยากจะซื้อ ไปซื้อกับคนอื่นก็ว่ากันไป เราไม่มีสิทธิจะบอกว่าห้ามซื้อลาว เราจัดการในประเทศของเรา ก็ต้องคุยกันอีก
เพราะลาวก็คุยกับตนมาครั้งหนึ่งว่าต้องช่วยกันแก้ปัญหา แต่ตอนนี้เขาอุดตรงนั้น ตรงนี้ เขาก็พร้อมซีลชายแดนด้านเขาเหมือนกัน เพื่อแก้ปัญหา แต่เรายังไม่คุยไปถึงว่าวันนี้เราต้องทำอะไร การที่เขาต้องวิ่งไปหาฝ่ายที่อื่น แสดงว่าเขามีปัญหา
“ผมได้สั่งการให้เข้มงวดมากขึ้น ต้องขอรอสักระยะ ส่วนกระบวนการลักลอบตอนนี้ ก็เป็นไปได้ แต่มีช่องทางไหนที่มีปัญหา เราก็สกัดกั้นให้มีประสิทธิภาพที่สุด เมื่อเช้าได้มีข่าวอินเทอร์เน็ตตัดไม่ได้ ต้องไปดูว่าจริงหรือไม่ การตัดไฟครั้งนี้ ก็รู้อยู่ว่าเศรษฐกิจกระทบบ้าง แต่ก็ต้องเลือกเอา ตอนที่เราจะทำ เราไม่ได้ใช้อารมณ์ตัด เราดูผลกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ ไทย-เมียนมา ไทย-จีน เราคำนึงถึงความสัมพันธ์ด้านมนุษยธรรม อย่าง กฟภ. บอกว่าหายไป 600 ล้าน ก็แค่ 1% อยากให้มองให้รอบด้านว่าเราพยายามแก้ไขปัญหา ต้องให้ความเป็นธรรมในการแก้ไขปัญหาด้วย ไม่เช่นนั้นจะทำให้ยากลำบากมากขึ้น” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามต่อว่าต้องใช้กรอบเวลาเท่าไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การประกาศกรอบเวลาก็ทำได้ แต่เวลานี้เราตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นขณะนี้เราทำไปแล้วก็ดูไปด้วย ประเมินไปด้วยและรอบคอบให้มาก เพราะเราต้องทำให้ดีที่สุด.