เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ก.พ. (ตามเวลาท้องถิ่น ปักกิ่ง ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) ที่มหาศาลาประชาชน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือกับผู้บริหารบริษัทเอกชนรายใหญ่ของจีน  โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณ Mr. JIA Shaoqian ประธาน Hisense Group ที่เข้าพบและที่บริษัทให้ความไว้วางใจและลงทุนในประเทศไทย รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการขยายการลงทุนของบริษัท โดยบีโอไอจะเป็นหน่วยงานหลักสำหรับการประสานงานและอำนวยความสะดวกการลงทุนให้แก่บริษัท

นายกฯ กล่าวต่อว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการดึงดูดการลงทุนพร้อมกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานในประเทศ ผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่อุปทานโลก จึงหวังว่า บริษัทจะพิจารณาใช้ชิ้นส่วนในประเทศควบคู่ไปกับการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งแล้ว ยังจะช่วยให้การลงทุนของบริษัทในไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ แรงงานไทยมีประสบการณ์และทักษะ เชื่อมั่นว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของบริษัทได้ โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมเป็นหน่วยงานกลางในการประสานงานกับส่วนงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ด้าน Mr. JIA Shaoqian ประธาน Hisense Group กล่าวว่า บริษัทเล็งเห็นความสำคัญต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบด้าน โดยมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับบีโอไอ ทั้งนี้ บริษัทเห็นว่า เศรษฐกิจไทยพัฒนาอย่างมั่นคง และมีพื้นฐานอันดี พร้อมกระชับความร่วมมือมากขึ้นในอนาคต และตั้งใจมีส่วนช่วยยกระดับห่วงโซ่ในไทยมากขึ้นด้วย

จากนั้นนายกฯ พบหารือ Mr. Alain Lam, CFO และ Vice President, Xiaomi Corporation โดยนายกฯ กล่าวว่า ยินดีที่ได้พบ โดยได้ทราบว่าบริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ ทั้งนี้ หวังว่า บริษัทฯ จะพิจารณาให้ไทยเป็นฐานสำคัญของบริษัท หรือพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนตลาดและอุปกรณ์อัจฉริยะในประเทศไทยและตลาดอาเซียน 

ด้านผู้บริหารบริษัทฯ กล่าวว่า บริษัทสามารถทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าได้จำนวนมากนับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรก (SU7) เมื่อเดือน มี.ค. 2024  ทั้งนี้  นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า รัฐบาลและบีโอไอพร้อมสนับสนุนการลงทุนของบริษัท โดยมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่างๆ รวมถึง ease of doing business ด้วย.