จากกรณีที่ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีการเคลื่อนไหวให้มีการยกเลิกมาตรา 112 โดยระบุว่า ตัวกฎหมายเองไม่เคยเป็นปัญหา แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ มันเกิดจากการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าบุคคลในกระบวนการยุติธรรมอาจจะเกิดจากความกลัว หรืออาจจะเกิดจากความอยากแสดงความจงรักภักดีโดยไม่ยึดหลักนิติธรรม แล้วเกิดการใช้อำนาจในทางที่ผิดหรือ Abuse of Power เพื่อหวังผล  โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางรัฐบาล เพื่อหวังผลทางการเมือง เลยทำให้เกิดความไม่พอใจ และยิ่งใช้มากก็ยิ่งเกิดความไม่พอใจมาก  

อ่านฉบับเต็มที่นี่

เมื่อวันที่  3 พ.ย. รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก บางช่วงบางตอนว่า ทักษิณคงแกล้งลืมไปว่า ปอ.ม.112 เวอร์ชั่นล่าสุดที่เพิ่มโทษหนักนั้นเป็นผลงานแก้ไขของคณะรัฐประหารเมื่อวันที่ 23 ตุลา 19 หลังฆ่าหมู่นศ.6 ตุลา เพียงไม่กี่วัน

ประเทศที่เจริญแล้ว หลุดพ้นจากความป่าเถื่อนแล้ว เป็นประชาธิปไตยแล้ว เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน แล้ว เห็นคนเท่ากันแล้ว เขาไม่มีม.112 ท่าทีของทักษิณในเรื่องนี้ไม่ได้แปลกใหม่

แต่ลึกไปกว่านั้นคือ นี่สะท้อนว่า ทักษิณก็ไม่ต่างจากนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่มีความเชื่อเรื่องคนเท่ากัน เรื่องสิทธิเสรีภาพที่ไม่อาจละเมิดได้ของประชาชน ไม่เห็นว่า ม.112 นั้นขัดแย้งกับสิทธิเสรีภาพที่ตรงไหน ความเชื่อที่ว่า ประชาชนต้องการแค่ปากท้อง ไม่ได้ต้องการสิทธิเสรีภาพ เสมอภาค และศักดิ์ศรีความเป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งปากท้อง สมอง และหัวใจ ม.112

หลังจากที่ได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีชาวโลกออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นมี นายจอม เพชรประดับ สื่อข่าวอิสระ และนักวิจารณ์การเมืองไทย ที่ลี้ภัยการเมืองมาอาศัยอยู่ในสหรัฐ ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วยโดยระบุว่า ท่วงทำนองเชิงตำหนิด้วยว่า กลุ่มราษฎรที่เสนอ ยกเลิก 112 เพราะด้วยอารมณ์โกรธ ใจร้อน …