เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ก.พ. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ​ เยี่ยมชมกระบวนการผลิตอากาศยานไร้คนขับ (UAV หรือ​ โดรน​) และศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยด้านไซเบอร์ (CSOC) ของ บริษัท อาร์ วี คอนเน็กซ์ จำกัด ผู้ประกอบกิจการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และให้บริการเทคโนโลยีความมั่นคงปลอดภัยด้านไซเบอร์​ของประเทศ

โดยนายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ตนเองมีความสนใจโดรน เนื่องจากบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ผลิตโดยคนไทยและใช้ทรัพยากรภายในประเทศ​สามารถติดตั้งอุปกรณ์ที่ทันสมัยได้  ซึ่งกระทรวงกลาโหมก็มีทิศทางนี้เช่นกัน นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมอยากส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นการประหยัดงบประมาณ อีกทั้งยังส่งผลดีในเรื่องเศรษฐกิจ และสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า เหล่าทัพไม่น่าจะมีปัญหาที่จะหันมาใช้ยุทโธปกรณ์ที่ผลิตภายในประเทศ เพราะเราได้มีการพูดคุยกันแล้ว ซึ่งทางเหล่าทัพก็ต้องการเพิ่มสัดส่วนการจัดซื้อภายในประเทศ​ แต่ขณะเดียวกันทางบริษัท หรือผู้ผลิตก็ต้องทำสินค้าให้มีคุณภาพที่ทัดเทียม เพื่อสามารถนำไปใช้งานได้ เพราะจะส่งผลต่อผู้ปฏิบัติงาน ที่จะต้องทำให้เกิดความมั่นใจว่าสามารถปกป้องชีวิตของตัวเองได้กับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย

นายภูมิธรรม​  กล่าวต่อว่า​ เรามีความคาดหวัง ว่าจะนำโดรนมาปรับใช้ในภารกิจการบรรเทาสาธารณภัย การลาดตระเวน ซึ่งไม่ต้องใช้เทคโนโลยีที่สูงมากเกินไป ก็น่าจะนำมาทดลองใช้ได้  ส่วนการแก้ไขระเบียบหรือกฎหมายภายในกองทัพ เพื่อให้เอื้ออำนวยกับผู้ประกอบการภายในประเทศ​ ตนเคยพูดคุยกับภาคเอกชนหลายบริษัท ว่ายินดีที่จะปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น  เพราะกฎระเบียบเป็นเพียงข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติ แต่หากไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ ก็สามารถแก้ไขได้ เพราะเราไม่ได้สร้างกฎระเบียบมาพันธนาการตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งที่ถูกบรรจุไว้ในนโยบาย ซึ่งก็ต้องเร่งดำเนินการแก้ระเบียบ ส่วนจะสำเร็จได้แค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพภายในประเทศ

ด้านนายสุเจตน์ จันทรังษ์  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาร์ วี คอนเน็กซ์ จำกัด กล่าวถึงประเด็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยที่อยากเสนอต่อรัฐบาล โดยชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบัน บริษัท อาร์ วี คอนเน็กซ์ จำกัด รวมถึงผู้ประกอบการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยหลายราย มีศักยภาพ และมีความพร้อมที่ทัดเทียมกับผู้ผลิตยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีของต่างประเทศ โดย บริษัท อาร์ วี คอนเน็กซ์ จำกัด มีศักยภาพในการออกแบบ ผลิต UAV และการปรับปรุงอากาศยานรบ ตลอดจนระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (Anti-Drone System) ให้แก่กองทัพอากาศ (ทอ.) แต่ระเบียบที่นำไปสู่การปฏิบัติในขั้นตอนการจัดซื้อจัดหา อาจยังขาดความชัดเจน และอาจถูกตีความว่าการจัดซื้อจัดจ้างโดยเฉพาะเจาะจงไปที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ ทำให้ผู้ปฏิบัติขาดความมั่นใจ และกังวลว่าจะถูกกล่าวหาว่าประพฤติทุจริต ส่งผลให้นโยบายการส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเพื่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่สามารถสัมฤทธิผลได้ตามเจตนารมณ์ รัฐบาลจึงควรแก้ไขในส่วนนี้ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น

“ที่ผ่านมานโยบายจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐไม่เอื้อต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยเอง เช่นเดียวกับกฎระเบียบต่างๆ ก็ไม่สนับสนุนการวิจัย พัฒนา และผลิตยุทโธปกรณ์ภายในประเทศ ขณะเดียวกัน กองทัพ ก็มักเลือกใช้ยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ โดยใช้ข้ออ้างว่า ผลิตภัณฑ์ไทยเป็นเพียงต้นแบบ ที่ยังไม่ผ่านสนามรบ จึงอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญและเร่งแก้ไขในส่วนนี้” นายสุเจตน์  กล่าว.