เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ศูนย์วิทยุศรีไผท สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งว่ามีชาวจีนโทรศัพท์ขอความช่วยเหลืออยู่ที่บริเวณใต้สะพานลอย ใกล้แยกบ้านดงมัน ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานไปยัง ร.ต.อ.อุทัย ดวงดี ร้อยเวร สภ.เมืองสุรินทร์ รุดเข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ พบชายชาวจีนหนึ่งรายนั่งอยู่ในอาการตกใจกลัวทราบชื่อคือ นายซู ลี อายุ 29 ปี ทราบว่าได้ถูกหลอกลักพาตัวมาเพื่อบังคับให้ทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ได้กระโดดวิ่งหนีมาหลบใต้สะพาน จึงแจ้งขอความช่วยเหลือ

จากนั้นตำรวจได้ขยายผลล่าตัวขบวนการลักลอบขนต่างด้าว กระทั่งเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 2 ห้อง พบชาวเวียดนาม 4 คน และพบพาสปอร์ตชาวจีนจำนวนหลายเล่ม และอุปกรณ์ในการจัดเล่มพาสปอร์ตปลอม พร้อมกับได้นำตัวไป สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ต่อมาได้ขยายผลเข้าช่วยเหลือชาวจีน 4 คน ที่ถูกขังไว้ในบ้านหลังหนึ่งย่าน ต.คอโค อ.เมืองสุรินทร์

ล่าสุด พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย รอง ผบช.ภ.3 ได้ลงพื้นที่มาติดตามคดีที่ จ.สุรินทร์ เพื่อเรียกประชุม จากนั้นพร้อมด้วย พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.4 ได้เข้าตรวจสอบบ้านต้องสงสัยในพื้นที่ ต.ท่าสว่าง และ ต.คอโค และเชื่อว่าน่าจะเขื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งโอร์เสม็ด ประเทศกัมพูชา ก่อนลักลอบเข้ามาฝั่งไทย ซึ่งจากการตรวจค้นพบอุปกรณ์การปลอมแปลงพาสปอร์ตจำนวนมาก เตรียมจะไปยังฝั่งเมียนมา คาดมีทั้งคนไทย คนเวียดนาม และจีน อยู่ในขบวนการดังกล่าว ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์

ต่อมาชุดสืบสวนได้เข้าตรวจค้นบ้านอีก 2 หลังในพื้นที่ ต.ท่าสว่าง อ.เมืองสุรินทร์ พร้อมกับได้ร่วมกันจับกุม Mr.TU VAN DIEP อายุ 34 ปี สัญชาติเวียดนาม และMr.TRUONG ANH HUNG อายุ 32 ปี สัญชาติเวียดนาม พร้อมของกลางรวม 17 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำพาสปอร์ตปลอมจำนวนมาก ก่อนแจ้งข้อหา “ร่วมกันทำหนังสือเดินทางปลอม”

โดย พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้ากรณีที่ชาวจีนได้โทรไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ พร้อมกับได้สอบสวนจึงทราบว่ามีแหล่งที่พักพิงต่างด้าวคือชาวเวียดนามและชาวจีน จึงได้ขยายผลต่อและจุดนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่เป็นแหล่งชาวเวียดนามได้เชื่อมโยงกันแก็งคอลเซ็นเตอร์มีการทำพาสปอร์ตขึ้นมา โดยพาสปอร์ตที่เรายึดได้บางส่วนได้มีการเชื่อมโยงโดยตรงกับบุคคลที่เราไปตรวจพบในวันแรกๆด้วย เชื่อว่าขบวนการนี้เป็นขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งจะต้องเอามาพักอยู่ตรงนี้เตรียมข้ามไปประเทศที่ 3 เพราะว่าจัดทำพาสปอร์ตเตรียมไว้ ตอนนี้ให้ทางพื้นที่ประสานไปทางตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สำหรับการเชื่อมโยงไปฝั่งเมียนมานั้นเรายังไปไม่ถึง แต่ก็จะตรวจสอบว่าบุคคลที่เช่าอยู่เป็นคนไทย ซึ่งต้องตรวจสอบว่ามีการเชื่องโยงไปทางบัญชีม้า หรือค้ามนุษย์ และคอลเซ็นเตอร์หรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกครั้ง