เมื่อวันที่ 12 ก.พ. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีรัฐบาลไทยได้ใช้มาตรการที่เด็ดขาดในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยหนึ่งในแนวทางที่สำคัญคือ การตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต ในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ที่อาจจะกระทบแรงงานข้ามชาติในไทย ว่า ตามแนวขอบชายแดน จะมีผู้ใช้แรงงานข้ามชาติเข้ามาทำงานในประเทศไทย เมื่อมีการตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต ไม่ได้กระทบต่อผู้ประกอบการชาวไทย เพราะฉะนั้นแรงงานข้ามชาติที่เข้ามาทำงานในเขตประเทศไทย จึงไม่ได้มีผลกระทบอะไร แต่สิ่งที่วันนี้รัฐบาลไทยพยายามตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต เป็นสิทธิของรัฐบาลไทยในการไม่ให้การสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ
“ขณะนี้พวกเราทราบกันว่า คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทยเราไปตั้งเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นวันนี้รัฐบาลเอาจริง พวกเราเห็นอยู่ว่าเราตัดทุกสิ่งทุกอย่างภายในวันเดียวและจบ อาจจะได้เห็นการชุมนุมหรือการเรียกร้องในประเทศฝั่งตรงข้าม แต่จำนวนก็ลดลงไป ซึ่งเป็นม็อบจัดตั้งที่ไม่ได้มีผลกระทบใดกับประเทศไทย และรัฐบาลไทยก็จะไม่สนใจม็อบเหล่านั้น เพราะถือว่าที่เราทำก็เป็นการป้องกันคนไทยไม่ให้ถูกหลอกต่อไป” นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนชื่นชมที่นายกรัฐมนตรี มีการสั่งการขั้นเด็ดขาดในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าให้ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุกๆ แนวชายแดนที่ติดกับไทยขั้นเด็ดขาด อะไรก็ตามที่ในอดีตเราเคยให้บริการกับเพื่อนบ้าน แต่เมื่อพวกเขาเหล่านั้นทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงเป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะสั่งตัดสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ ตนคิดว่าท่านนายกฯ ทำอย่างถูกที่สุดและสั่งการเด็ดขาดที่สุด โดยเฉพาะหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย (มท.) หรือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่ดูแลในแต่ละฝ่าย ได้ทำงานพร้อมกัน นี่คือรัฐบาลที่มีความพร้อม เมื่อได้รับคำสั่งจากท่านนายกฯ ทุกคนต้องพร้อมขับเคลื่อน
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะมีการปลุกระดม หรือปั่นข้อมูลกับแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยอยู่แล้ว นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ไม่ต้องกลัว เพราะถึงอย่างไรแรงงานที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยอยู่แล้วนั้น เขาก็ไม่ได้อยากกลับไปอยู่แล้ว เพราะเขาอยู่ฝั่งนั้นก็อยู่ไม่ได้.