เมื่อวันที่ 12 ก.พ. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีเตรียมเดินทางลงพื้นที่จังหวัดพัทลุง และ สงขลา ระหว่างวันจันทร์และอังคารที่ 17-18 ก.พ.นี้ และนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งแรกของปีใหม่นี้ 
               
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีทุกกระทรวง ลงพื้นที่ตรวจราชการ รับฟังปัญหา เพื่อผลักดันนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่ต่างๆ ของภาคใต้ อาทิ การพัฒนาการเกษตรสู่เกษตรสมัยใหม่ และเกษตรมูลค่าสูง รวมทั้งการท่องเที่ยว และท่องเที่ยวชุมชน สู่การท่องเที่ยวมูลค่าสูงอย่างยั่งยืน การพัฒนาอุตสาหกรรม เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) การค้า การลงทุน และการค้าชายแดน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัด รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งโลจิสติกส์ เครือข่ายการสื่อสาร และพลังงาน เพื่อเป็นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของกลุ่มจังหวัดภาคใต้เพื่อการพัฒนาสังคม สู่สังคมเป็นสุขและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนพร้อมทั้งติดตามการฟื้นฟูอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อีกด้วย
            
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ โดยในวันจันทร์ที่ 17 ก.พ. เวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานจังหวัดตรัง ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมือง และเดินทางต่อไปที่จังหวัดพัทลุง โดยเวลาประมาณ 13.00 น. นายกรัฐมนตรีจะติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ที่จุดชมวิวทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ซึ่งจุดนี้จะมองเห็นทะเลน้อย และทะเลสาบสงขลา เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำ ในยามน้ำแล้งหรือน้ำท่วม เพื่อบริหารให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนไม่ให้ได้รับผลกระทบทั้งน้ำท่วมน้ำแล้งอีกต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้
          
ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังบริษัท ไทยยูเนี่ยนซีฟู๊ด จำกัด ที่อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เพื่อพูดคุยรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะในกระบวนการผลิตและส่งออกอาหารทะเลของไทย เพื่อนำมาปรับปรุงนโยบายต่างๆ ของทางราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสินค้าประมงของไทยที่กำลังได้รับความนิยมจากตลาดโลก จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปรับฟังแนวทางการสนับสนุนการท่องเที่ยว ในเมืองน่าเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล ที่ชุมชนเมืองเก่าสงขลา และพูดคุยประเด็นการส่งเสริมหรือเปิดสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสงขลา ที่บริเวณเมืองเก่าสงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
               
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ในวันอังคารที่ 18 ก.พ. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรีทั้งคณะอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งแรกของปีนี้ที่ห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จากนั้น ช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังด่านศุลกากรสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย และติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ของประเทศมาเลเซีย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นช่องทางการส่งออกและนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยไปยังมาเลเซีย ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนมอเตอร์เวย์ของมาเลเซีย ที่เดินทางไปยังเมืองปีนัง และไปถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ต่อเนื่องไปถึงเมืองยะโฮบารู ชายแดนมาเลเซีย สิงคโปร์ ได้อีกด้วย   
            
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในการติดตามความคืบหน้าของโครงการพัฒนาภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย รวมถึงรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ เพื่อผลักดันนโยบายของรัฐบาลให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งการประชุม ครม.สัญจร ในภาคใต้ครั้งนี้ จะทำให้รัฐบาลเห็นถึงโอกาสและปัญหาต่างๆ ที่อาจจะติดขัดในช่วงหลายปีที่ผ่าน เพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ที่มีศักยภาพอย่างมากในโครงการระดับประเทศและระดับโลกต่างๆ” นายจิรายุ กล่าว