จิอานลูกา ฟาเนลลิ นายแพทย์หัวหน้าแผนกรังสีวิทยาและรังสีวิทยาประสาทของโรงพยาบาลปารินีในเมืองอาออสตา ประเทศอิตาลี กลายเป็นข่าวใหญ่และโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากที่เขาใช้เครื่องซีทีสแกนกับแมวของตัวเอง เพื่อตรวจอาการบาดเจ็บก่อนที่จะลงมือผ่าตัดให้มัน
ในตอนเย็นของวันที่ 27 มกราคม 2568 ฟาเนลลิพาแมวที่ได้รับบาดเจ็บของเขาไปหาสัตวแพทย์ และได้รับการวินิจฉัยอาการของมันแย่มาก เขาจึงตัดสินใจพาเจ้าอธีนา แมวของเขาไปที่โรงพยาบาลปารินีที่เขาทำงานอยู่ และจับมันเข้าเครื่องซีทีสแกน เพื่อตรวจดูความเสียหายของอวัยวะภายใน จากนั้น เขาก็ลงมือผ่าตัดปอดและช่องอกของแมวในห้องถ่ายภาพรังสีหลอดเลือดของแผนก เพื่อช่วยชีวิตมัน
“ผมทำตามหน้าที่ของผม ถ้าไม่มีผม อธีนาคงตายไปแล้ว” ดร.ฟาเนลลิ อธิบาย “ผมรู้ว่าผมช่วยชีวิตมันได้ แต่ต้องรักษาอย่างทันท่วงที ในช่วงเวลาที่เครื่องซีทีสแกนทั้งสามเครื่องไม่ได้เปิดใช้งาน หลังจากเวลา 20.00 น. ของวันจันทร์ที่ 27 มกราคม ซึ่งเป็นเวลาที่การใช้งานตามกำหนดการในวันนั้นจบหมดแล้ว และเครื่องทั้งหมดยังไม่มีกำหนดการให้ทำการทดสอบเร่งด่วนใดๆ หลังจากตรวจสอบและยืนยันแล้วว่าไม่มีคนไข้ และแน่นอนว่าไม่มีคนเข้ามาทำงาน ผมจึงตัดสินใจใช้เครื่องเพื่อตรวจดูว่าอาการของมันเป็นอย่างไร”
อธีนาเป็นแมวที่ชอบผจญภัย ในวันนั้น มันปีนขึ้นไปบนหลังคาของอาคารหกชั้น ซึ่งเป็นที่พักของครอบครัวฟาเนลลิเหมือนอย่างเคย แต่คราวนี้ มันเสียหลักและตกลงมาที่พื้นข้างล่าง ฟาเนลลิรีบพามันไปที่คลินิกสัตวแพทย์ ซึ่งตรวจพบว่ากระดูกสันหลังหัก ปอดอย่างน้อยหนึ่งข้างรั่ว และอาจมีรอยโรคที่อวัยวะภายใน
หลังจากฟาเนลลิพาแมวออกจากคลินิกและไปเข้าเครื่องซีทีสแกนที่โรงพยาบาลปารินี เพื่อตรวจสอบและยืนยันอาการบาดเจ็บภายในของมัน ฟาเนลลิก็ลงมือผ่าตัดเจาะโพรงเยื่อหุ้มปอด เพื่อระบายของเหลวออกจากปอดของแมว ทำให้อธีนาหายใจได้อีกครั้ง
“การเป็นหมอหมายถึงการปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ แรงผลักดันก็คือชีวิตที่ฉายชัดอยู่ในดวงตาของผู้ที่ฝากตัวเองไว้ในการดูแลของคุณ และความมีชีวิตนี้อยู่ในทุกสิ่งที่มีชีวิต” แพทย์ชาวอิตาลีกล่าว “ถ้าแมวของผมตาย ผมคงไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้เลย โดยเฉพาะเมื่อลูกๆ ของผมรักมันมาก”
ข่าวเรื่องการกระทำของฟาเนลลิ ในตอนเย็นของวันที่ 27 มกราคม ได้กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วทั้งโรงพยาบาลปารินี และเมื่อข่าวไปถึงฝ่ายบริหาร ก็มีคำสั่งให้เปิดการสอบสวนภายใน ฟาเนลลิอาจถูกตั้งข้อหาใช้งบประมาณของรัฐในทางที่ผิดและกีดกันผู้ป่วยจากบริการที่จำเป็น คดีของเขาอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการในอาออสตา
คำถามใหญ่ข้อหนึ่งก็คือ ทำไมฟาเนลลิจึงพาแมวไปที่โรงพยาบาลปารินี หลังจากได้รับคำวินิจฉัยจากคลินิกสัตวแพทย์ ซึ่งเขาตอบว่าเป็นเพราะ “อารมณ์ชั่ววูบ” และ “ต้องเข้าไปแทรกแซงอย่างเร่งด่วน เพราะเป็นสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อความเป็นความตาย”
“สามีของฉันช่วยชีวิตไว้หนึ่งชีวิต จบนะ!” นิโคเลตตา สเปลกัตติ ภรรยาของฟาเนลลิและนักการเมืองท้องถิ่น กล่าวกับนักข่าว “ในชีวิตคนเรา จงทำความดีและอย่ากังวลเกี่ยวกับผลที่ตามมา กฎหมายของมนุษย์และกฎของจักรวาลไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกันเสมอไป”
ที่มา : odditycentral.com
