เมื่อวันที่ 13 ก.พ. นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กวาดล้างการทำงานของแรงงานข้ามชาติ ภายใต้ปฏิบัติการ “เจอ จับ ปรับ ผลักดัน” เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อโอกาสการมีงานทำของคนไทย ซึ่งหลายอาชีพถูกควบคุมเป็นอาชีพสงวนของคนไทย และส่งผลต่อความมั่นคงและระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย สำหรับนายจ้างที่ประสงค์จะจ้างงานคนต่างชาติทำงานในตำแหน่งครูผู้สอนในสถานศึกษา ต้องเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ไม่ใช่เข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางผ่าน (TOURIST/TRANSIT VISA) หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบครูชาวต่างชาติทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ในโรงเรียนหรือสถานศึกษา จะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศ

นายคารม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ หากโรงเรียนหรือสถานศึกษาฝ่าฝืนกฎหมาย ก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหารับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ ดังนี้ 1.มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้าง 1 คน 2.หากกระทำผิดซ้ำ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000-200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้าง 1 คน หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี ทั้งนี้ขอให้ผู้ที่ประสงค์จ้างแรงงานต่างชาติทำหน้าที่ในตำแหน่งครูผู้สอนในสถานศึกษา ดำเนินการให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด หากมีข้อสอบถามสามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 ซึ่งมีบริการล่ามภาษาอังกฤษรองรับการให้บริการข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนแนะนำวิธีการทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย