สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ว่า พล.อ.โรเมโอ บราวเนอร์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมฟิลิปปินส์ กล่าวในการปราศรัยต่อผู้นำทางธุรกิจว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์จัดสรรงบประมาณ 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.18 ล้านล้านบาท) สำหรับการพัฒนากองทัพในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายต่อต้านอำนาจทางทหารของจีนในภูมิภาค

“เราต้องการเรือดำน้ำอย่างน้อย 2 ลำ เพราะประเทศของเราเป็นหมู่เกาะ ซึ่งการป้องกันโดยไม่มีเรือดำน้ำเป็นเรื่องที่ยากมาก ถ้าเราไม่มีขีดความสามารถประเภทนี้” พล.อ.บราวเนอร์ กล่าวเพิ่มเติม

เมื่อปี 2565 ฟิลิปปินส์ซื้อระบบขีปนาวุธต่อต้านเรือ “บราห์มอส” มูลค่า 375 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 12,700 ล้านบาท) จากอินเดีย และมีคำสั่งซื้อเพิ่มเติม ส่งผลให้กองทัพฟิลิปปินส์จะได้รับขีปนาวุธดังกล่าวมากขึ้นในปีนี้ และปีต่อ ๆ ไป

ก่อนหน้านี้ ทางการฟิลิปปินส์ระบุว่ามีความต้องการซื้อขีปนาวุธพิสัยกลาง และเครื่องบินขับไล่อย่างน้อย 40 ลำ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศ รวมถึงคาดว่าจะมีการส่งมอบเรือคอร์เวตต์อย่างน้อย 2 ลำจากเกาหลีใต้ ในปี 2568 หลังฟิลิปปินส์และเกาหลีใต้ ยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เมื่อปีที่แล้ว

ด้านพล.อ.บราวเนอร์ ระบุเสริมว่า รัฐบาลมะนิลายังพยายามดึงเกาหลีใต้เข้าร่วมกลุ่มพหุภาคี “สควอด” (Squad) ซึ่งประกอบด้วยออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และสหรัฐด้วย

อนึ่ง การเสริมกำลังทางทหารของฟิลิปปินส์ เกิดขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลมะนิลากับรัฐบาลปักกิ่ง ทวีความรุนแรงในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AFP