เมื่อวันที่ 14 ก.พ. พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.วิชาญวิทย์ เคยการ ผกก.สภ.คลองน้ำใส และกำลัง จนท.ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ร่วมกันจับกุมตัวชาวจีน 3 ราย ประกอบด้วย 1.MR.Wang Jican (หวัง จินคาน) อายุ 34 ปี สัญชาติจีน อยู่ที่มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน 2.MR.Fu Xufei (ฟู่ เสวี่ยเฟย) อายุ 28 ปี สัญชาติจีน อยู่ที่มณฑลกานซู่ ประเทศจีน และ 3.MR.Xiao Chunhui (เสี่ยว ซุนสุย) อายุ 25 ปี สัญชาติจีน อยู่ที่มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ได้ที่บริเวณกระท่อมริมถนนลูกลัง ถนนบ้านกุดหิน–โนนสาวเอ้ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 โดยกำชับให้ทางตำรวจ ภ.จว.สระแก้ว ผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ในการสกัดจับบุคคลลักลอบเข้าและจะลักลอบออกประเทศผ่านช่องทางผิดกฎหมาย ตามยุทธการปิดสวิตช์แก๊งคอลเซ็นเตอร์
สนธิกำลัง สกัดจับ ‘แก๊งหลอกก๊วนคนจีน’ ย้ายฐานพาเหยื่อทำคอลเซ็นเตอร์ไปเขมร
จากการสอบสวน ทั้งหมดให้การอ้างว่า ขับรถมาจากประเทศเวียดนาม ก่อนจะผ่านมายังกัมพูชา และได้ลักลอบเข้าประเทศไทย เพื่อไปทำงานที่ร้านอาหารใน จ.เชียงใหม่ โดยมีเพื่อนที่อยู่ใน จ.เชียงใหม่ เป็นคนจัดการให้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่เมียวดี ประเทศเมียนมา มีการกดดันตัดไฟ ตัดน้ำมัน จึงทำให้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ย้ายฐานมาอยู่ทางปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งชาวจีนทั้ง 3 คน ล้วนถูกจับได้ที่บริเวณรอยต่อชายแดน ซึ่งจะได้คุมตัวไปสอบสวนขยายผลต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าว (ชาวจีน) ที่หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน ตำรวจสืบสวน บช.ภ.2 ร่วมกับ ส.ทล.5 กก.3 บก.ทล., กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ สภ.เขาสิงห์โต จ.สระแก้ว จับกุมนายชัยวิชิต (สงวนนามสกุล) ขณะขับรถยนต์พา 5 ชาวจีน พร้อมโทรศัพท์มือถือได้ 19 เครื่อง บริเวณสี่แยกบ้านแก้ง ต.บ้านแก้ง อ.เมือง จ.สระแก้ว เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ จากการสอบปากคำ 1 ใน 5 ชาวจีนที่ถูกจับกุมด้วยนั้น ให้การอ้างว่า ก่อนหน้านี้ ถูกหลอกมาทำงานอยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เคเคพาร์ค (KK Park) ในเมืองเมียวดี ตรงข้ามบ้านแม่ตาว อ.แม่สอด จ.ตาก มานานกว่า 1 ปีครึ่ง โดยพวกตนออกจากจีนมาตามช่องทางธรรมชาติ ผ่านเข้ามาเวียดนาม แล้วจึงไปเข้ากัมพูชาด้านสวายเรียง ก่อนจะเข้ามาประเทศไทยด้าน อ.อรัญประเทศ จากนั้นถูกพาไปส่งชายแดน อ.แม่สอด ข้ามแม่น้ำเมย ถูกบังคับให้ไปทำงานอยู่กับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่เคเคพาร์ค
กระทั่งล่าสุดทางการไทย ได้ตัดไฟฟ้าและสัญญาณอินเทอร์เน็ต เมื่อทำงานไม่ได้ถูกขายต่อไปให้ทหารกะเหรี่ยงเอาไปส่งริมแม่น้ำเมย ลักลอบข้ามชายแดนประเทศไทย มีคนขับรถยนต์มารอรับ ระหว่างทางกว่าจะมาถึง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ต้องสลับสับเปลี่ยนรถประมาณ 10 คัน เมื่อทราบว่าจะถูกส่งไปยังปอยเปต กัมพูชา ให้เดินข้ามช่องทางธรรมชาติ ทางบ้านเขาดิน อ.คลองหาด ระหว่างทางอยู่ในรถจึงหาโอกาสส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยว จนทำให้มีการประสานงานกับตำรวจ สืบสวนภาค 2 และ ภ.จว.สระแก้ว
