เมื่อวันที่ 14 ก.พ.นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ภาพเอกสารเชิญให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา กรณี 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล เข้าชื่อแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ว่า
ผมไม่สามารถเข้าใจได้ว่า การเข้าชื่อเสนอเพื่อแก้กฎหมาย มันจะเป็นความผิดได้อย่างไร ในเมื่ออำนาจนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของ สส. รวมถึงก็ไม่มีบทบัญญัติใดๆ แห่งกฎหมายที่ระบุว่าการเข้าชื่อเสนอเพื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จะไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ การหาเสียงของพวกเราอดีตพรรคก้าวไกล ก็มีการส่งให้กับคณะกรรมการเลือกตั้งอีกด้วย ผมยืนยันในการทำหน้าที่ของพวกเราว่าไม่มีทางที่จะผิดต่อมาตรฐานจริยธรรมอย่างแน่นอน
นายรังสิมันต์ ระบุว่า การได้เห็น ป.ป.ช. ขยันขันแข็งในการรวบรวมข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีกับ สส. ทั้ง 44 คน ท่ามกลางข้อครหาของ ป.ป.ช. ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องวิ่งเต้น ให้หลุดพ้นจากการถูกร้องถอดถอนในกรณีที่เป็นข่าวล่าสุด มันจึงเป็นเรื่องที่ตลกร้ายต่อพวกเราจริงๆว่าองค์กรอย่าง ป.ป.ช. ที่มีชนักติดหลังแบบนี้ มีข้อคอรหาที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดจริยธรรม จะเข้ามาตรวจสอบนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งและใช้อำนาจหน้าที่นั้นเพื่อแก้ไขกฎหมายได้อย่างไร

นายรังสิมันต์ ระบุต่อว่า ยังไม่นับว่าพวกเรา สส. ฝ่ายค้านที่ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบบรรดาผู้มีอำนาจทั้งหลาย ได้เคยร้องหลากหลายกรณีไปยัง ป.ป.ช. กลับพบว่ามีความคืบหน้าน้อยมาก ขณะที่คดีที่เกิดขึ้นต่อพวกเรากลับรวดเร็วปานดังกามนิตหนุ่ม ได้แต่สงสัยว่ามาตรฐานของ ป.ป.ช. นั้นเป็นอย่างไรกันแน่
“สุดท้ายนี้ผมได้รับหนังสือฉบับนี้ในวันมาฆบูชา ไม่แน่ใจว่าเป็นเหตุบังเอิญหรือไม่ และหลังจากนั้นนายสุชาติก็ได้รับการโปรดเกล้าเป็นประธาน ป.ป.ช. ก็ขอแสดงความยินดีด้วย หากคดีนี้มีความคืบหน้าอย่างไรผมจะได้แจ้งให้กับพี่น้องประชาชนได้ทราบกันอีกที ส่วนตัวผมทราบดีว่าเวลาของผมคงจะมีอีกไม่มากระหว่างนี้ก็คงจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่”นายรังสิมันต์ระบุ.