กลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาทันที เมื่อเพจ “ชมรมพนักงานกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดระยอง” ได้เผยแพร่โพสต์ของพยาบาลสาวรายหนึ่ง โดยระบุว่า “เหตุบุคลากรของโรงพยาบาลในจังหวัดระยอง ถูกญาติคนไข้ทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้าเพราะไม่พอใจที่ถูกเตือน ถือเป็นภัยคุกคามอย่างรุนแรงและไม่ควรจะเกิด #ทางชมรมจึงขอประนามการกระทำดังกล่าว และขอให้สำนักข่าวช่วยให้ความเป็นธรรมกับบุคลากรรายนี้ด้วย เพราะทราบมาว่าหน่วยงานต้นสังกัดไม่ให้ความร่วมมือในการเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ”

นอกจากนี้ ยังระบุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากพยาบาลให้คำแนะนำว่าไม่ควรเอาเด็กเข้ามา ภรรยาออกไปบอกสามี สามีเดินเข้ามาเคาน์เตอร์ทำการตบเจ้าหน้าที่ จากโพสต์ดังกล่าว ก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมากแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าวของญาติคนไข้

หมอชี้พยาบาลถูกญาติคนไข้โหดตบหน้าทำถูกต้องแล้ว เหตุพยายามปกป้องชีวิตเด็ก

เปิดใจพยาบาลสาวถูกญาติคนไข้โหดตบหน้า ยันเตือนด้วยความหวังดีลั่นจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

หนุ่มตบหน้าพยาบาลอ้างพูดไม่ดีกับเมีย ยอมรับบันดาลโทสะหากจะดำเนินคดีก็พร้อม

ล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ได้ปรากฏว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นภรรยาของชายที่ตบพยาบาล โพสต์ข้อความชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “ขออนุญาตเล่าจากอีกมุมของผู้ป่วยนะคะ ยาวนิดแต่อยากให้อ่านจนจบ ครอบครัวน้องมีกัน 6 คน พ่อ แม่ ลูก 3 คน และคุณยาย ลูก 6 ขวบ 2 คน 3 ขวบ 1 คน น้องทั้งสามคน ไปโรงเรียนและติดไข้หวัดสายพันธุ์ A กันมาแล้ว โดยคุณยายเป็นคนดูแลน้องเลยติดไข้มา เช้าวันเสาร์ คุณยายมีอาการไข้ พาไปหาหมอโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ยากลับมากิน เช้าวันอาทิตย์ มีอาการช็อกหายใจไม่ออก เลยส่งโรงพยาบาลใกล้บ้าน โรงพยาบาลเลยส่งต่อมาโรงพยาบาลใหญ่ เพราะไวรัสลงปอดทั้งสองข้างแล้ว มันเร็วมากจนตั้งตัวไม่ติด

ช่วงบ่ายคุณหมอโทรฯ มาบอกว่าคุณแม่อาการหนัก ให้สแตนด์บายรอ รพ. ลูกสาวเลยโทรฯ บอกสามีให้มาอยู่ด้วย ก็ต้องเอาลูกมาด้วยอยู่แล้ว เพราะไม่มีคนเลี้ยง พอถึงเวลาเข้าเยี่ยม สามีก็เลยพาหลานรักยายเข้า 1 คน เผื่อถ้าคุณยายเห็นจะได้มีกำลังใจสู้ เจอพี่พยาบาลคนที่ 1 เขาก็พูดจาน่ารัก บอกเด็กเข้ามาอันตรายนะคะ พ่อเขาเลยบอกว่า ยายติดจากเด็กครับ เด็กเพิ่งหาย มาให้ยายเห็นหน้าหน่อยยายจะได้สู้ๆ พี่พยาบาลคนเต็มบอกว่าได้ๆ แต่คนไข้เช็ดตัวอยู่ ค่อยเข้ามาใหม่นะ ก็เดินออกไปจากห้อง

รอบใหม่ ลูกสาวบอกว่าเดี๋ยวพาน้องไปดูแม่เอง (เพราะสามีต้องเฝ้าลูกอีก 2 คนที่ต้องหอบมาด้วย) ลูกสาวก็พาน้องเข้าไป พยาบาลที่เช็ดตัวยายอยู่ เดินออกมาจากห้อง ปิดประตูดัง ดึงแมสก์ลงจากปาก ชักสีหน้าแล้วพูดเสียงดัง แบบตะคอก ว่าสูญเสียแม่อีกคนยังไม่พอ อยากจะสูญเสียลูกอีกคน ยอมรับได้ใช่ไหมพาเด็กออกไปเดี๋ยวนี้

ลูกสาวก็ตกใจ พูดแค่ว่า โอเคได้ค่ะ แล้วเดินออกไป ยังไม่ทันได้ดูแม่เลย พอออกไปข้างนอก ก็บอกสามีว่า เธอเข้าไปดูแม่คนเดียวเลย เดี๋ยวพาลูกลงไปรอข้างล่าง โดนพี่เขาว่ามา แล้วลูกก็เล่าพ่อเขาว่า ป๊าป๊า พยาบาลด่าหนู แล้วพี่เขาก็ไม่ขอโทษหนูเลย เขาตะคอกใส่หนู เมียเลยเล่า แล้วร้องไห้หนักมาก ไม่ได้ร้องเพราะโดนด่ามา แต่งงว่า สรุปแม่ตายแล้วเหรอ คือแม่จะไม่รอดเหรอ มันรวดเร็วไปหมด งงในความรู้สึกนั้นมาก

สามีเขาเลยโมโห แต่เข้าไปแล้วดูแม่ยาย ก็พยายายามอดทนคำพูดที่ได้ยินมา แต่ไม่ไหวจริงๆ เลยถามเมื่อกี้ใครด่าลูกเมียผม และบันดาลโทสะ ตบที่หน้าไป 2 ครั้ง ก็สอนไปว่าเวลาพูดกับใครก็ให้รู้จักให้เกียรติคนไข้และญาติคนไข้บ้าง ทำร้ายความรู้สึกกันทำไม คุณเป็นพยาบาลไม่มีจรรยาบรรณบ้างเหรอ แล้วก็เดินมาบอกเมียว่า เดี๋ยวรอพบตำรวจ และก็ยอมรับกับตำรวจ ว่าทำจริงครับ ผมบันดาลโทสะไปจริงๆ

ทางครอบครัวเราไม่ได้สนับสนุนความรุนแรง และยอมรับว่าทำจริงจากการบันดาลโทสะ และถ้าทางคู่กรณีจะดำเนินให้ถึงที่สุดก็ยินดีน้อมรับ”

ทั้งนี้ หลังการโพสต์ชี้แจง ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ว่า หากกรณีดังกล่าวพยาบาลใช้คำพูดไม่เหมาะสม หรือใช้คำพูดที่รุนแรงเกินไป ก็ควรที่จะใช้ช่องทางร้องเรียน ไม่ควรตบหรือทำร้ายร่างกายแบบนี้ โดยหลายคนยังมองว่า การตบเจ้าหน้าที่แบบนี้มีสิทธิอะไร และการอ้างว่าบันดาลโทสะ แต่มีการตบ 2 ครั้ง ดูไม่สมเหตุสมผล เป็นต้น