เมื่อวันที่ 18 ก.พ. นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีญาติผู้ป่วยตบพยาบาล ระหว่างที่เข้าไปแจ้งเตือนไม่ให้นำเด็กเล็กเข้าไปในห้อง ICU เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดการติดเชื้อในเด็กเล็กอันตรายถึงกับชีวิต ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม ว่าพยาบาลที่ถูกทำร้ายร่างกายและมีการบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน ต้องรักษาตัวเกิน 20 วันหรือไม่ หากเกินจากนี้จะถือว่าบาดเจ็บสาหัส เพราะจากคลิปที่ปรากฏ จะพบว่าถูกตบเข้าที่บริเวณกกหู ต้องดูว่ากระดูกคอเคลื่อนด้วยหรือไม่ ต้องมีการเอกซเรย์ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด ส่วนผู้ที่กระทำความรุนแรง ตอนนี้ข้อหาที่จะต้องโดนแน่ๆ ก็คือทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงาน นี่ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายทั่วไป นอกจากนี้ก็จะดูด้วยว่ามีการเข้าไปในพื้นที่แล้วขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่หรือไม่ ว่าจะเข้ากับข้อหาอะไร ขอย้ำว่าคดีทางอาญาก็โดนไป และจะต้องโดนคดีทางแพ่งด้วย เพราะกำลังตรวจสอบว่า มีความเสียหายอื่นๆ เกิดขึ้นด้วยหรือไม่
“จากภาพปรากฏ พยาบาลถูกตบคอแทบหัก แสดงถึงการไม่มีวิจารณญาณ พยาบาลให้การช่วยเหลือคุณ ดูแลลูกคุณและเตือนไม่อยากให้เด็กได้รับอันตราย เพราะนอกจากการป่วยเป็นไข้หวัดสายพันธุ์ A อาจจะทำให้เกิดการติดต่อและเสียชีวิตได้ ยังมีเชื้อโรคอื่นๆ อีกมาก ผมว่าไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ การใช้ความรุนแรงในสถานพยาบาลไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะขนาดในภาวะสงคราม เขาฆ่ากันจะตาย ยังไม่เข้าไปทำร้ายหมอพยาบาลในโรงพยาบาลเลย เรื่องนี้ต้องถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ผมต้องขอประณามผู้ก่อเหตุ” นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าว
นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าไม่มีการยอมความแน่นอน เพราะต้องดูว่าเป็นความผิดส่วนตัวหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็อยู่ที่แต่ละบุคคล แต่กรณีนี้ พยาบาลอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ มันยอมความไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการร้องทุกข์เอาไว้ รอผลตรวจพิสูจน์จากคุณหมอก่อน หากเรียบร้อยแล้วถึงจะมีการกล่าวโทษ ว่าจะมีข้อหาอะไรบ้าง หากโทษไม่เกิน 3 ปี ก็จะออกหมายเรียก แต่หากอัตราโทษเกิน 5 ปี ก็จะต้องขอหมายจับ เคสนี้เราดำเนินการเอาผิดจริง.