เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ในการประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคพลังประชารัฐประจำสัปดาห์ บรรยากาศค่อนข้างเงียบ มี สส. ของพรรคเข้าร่วมประชุมประมาณ 10 กว่าคน เนื่องด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้มาเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย เพราะติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ แต่ได้มอบหมายให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค ปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมแทน  

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมมีสาระสำคัญและข้อห่วงใยจากหัวหน้าพรรค สำหรับการดำเนินการของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา คืออยากให้รัฐบาลใส่ใจการใช้งบประมาณด้านพัฒนาบริหารประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาศักยภาพฝีมือแรงงาน ซึ่งที่ผ่านมา การบริหารของรัฐบาล ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร รวมทั้งการสร้างการแข่งขันในเวทีโลกแต่อย่างใด และจะเห็นว่าที่ผ่านมารัฐบาลพยายามผลักดันตัวเลข GDP ให้สูงขึ้น ด้วยการแจกเงิน 2 รอบ แต่ตัวเลข GDP ไม่ได้สูงขึ้นเท่าที่ควร ซึ่งนายสันติเองก็ได้บอกในที่ประชุมว่า รัฐบาลควรนำเงินที่แจกเหล่านั้น ไปใช้ในภารกิจอื่นๆ เช่น การพัฒนาการศึกษาฝีมือแรงงานดีกว่า 

พล.ต.ท.ปิยะ ยังกล่าวว่า ที่ประชุมยังมีการนำผลการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านมานำเสนอให้คณะกรรมการบริหารพรรคได้รับทราบ โดยพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีมติร่วมกันจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามมาตรา 151 ในวันที่ 27 ก.พ. นี้ นอกจากนี้ กรรมการบริหารพรรคยังมีมติให้ทางศูนย์วิชาการและนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ไปทำการศึกษาร่าง พ.ร.บ.ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่รัฐบาลจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพราะถ้าหากร่างนี้ผ่านสภา จะตัดอำนาจการบริหารของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และอำนาจดังกล่าวจะตกไปอยู่ในคณะกรรมการที่ถูกแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีแทน

เมื่อถามถึงกระแสเลือดไหลของพรรคพลังประชารัฐ หลังปรากฏภาพ สส.พรรคพลังประชารัฐ นั่งข้าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม ที่สภานั้น พล.ต.ท.ปิยะ ยืนยันว่า สส. ของพรรคพลังประชารัฐ ยังคงอยู่ 20 คน ครบถ้วน ก็อาจมีการไปมาหาสู่กันในฐานะคนที่เคยรู้จักกัน แต่ขอยืนยันว่าวันนี้ยังอยู่ครบถ้วน 

เมื่อถามว่า จะมีความเห็นและแนวทางต่อไปอย่างไร ที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน อย่างพรรคประชาชน กำลังถูก ป.ป.ช. เรียกสอบ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ที่จะพิจารณา และขอยังไม่ให้ความเห็นใดๆ นอกเหนือจากนี้.