จากกรณีโลกออนไลน์ออกมาแชร์คลิปหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ขับรถสวนขบวนของ น.พ.บุญ วนาสิน หรือ “หมอบุญ” ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด โดยมีตำรวจโรงพักหนึ่งคอยดูแลอำนวยการจราจรให้ ซึ่งทาง “หมอบุญ” อ้างว่า ถนนเส้นดังกล่าวในช่วงเวลาเร่งด่วนจะปรับเป็นวันเวย์ วิ่งสวนทางไม่ได้ ขณะที่ฝ่ายหญิงสาว ออกมาโต้กลับว่าวิ่งได้ เพราะไม่มีเครื่องหมายแต่อย่างใดตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

สาวใจเด็ดโต้”หมอบุญ”ยันขับถูก ชี้ถนนไม่มีเครื่องหมายบอกวันเวย์ รับผวาไม่กล้าขับรถ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 4 พ.ย. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษก บช.น. ขอประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบว่า เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ย. เวลาประมาณ 08.20 น. บนถนนกำแพงเพชร 7 เลียบทางรถไฟ เขตพื้นที่ สน.มักกะสัน โดยถนนเส้นดังกล่าวมี 2 ช่องทาง ปกติในช่วงเร่งด่วนเช้าเวลา 06.30-09.30 น. จะจัดเป็นระบบเดินรถทางเดียวจากแยกซอยวัดอุทัยฯ มุ่งหน้าแยกตัดถนนเพชรอุทัย แต่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมา รถมีปริมาณน้อยจึงไม่ได้จัดตำรวจจราจรไปบริหารจัดการจราจร บริเวณปากซอยดังกล่าว

ในวันเกิดเหตุมีรถติดสะสมในถนนกำแพงเพชร 7 เป็นจำนวนมาก ท้ายแถวกระทบไปในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ติดต่อกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน ได้รับการประสานมาให้ช่วยเร่งระบายรถ จึงได้ขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปยังปากซอย เพื่ออำนวยความสะดวกในจุดที่รถติด และจะไปกันรถบริเวณปากซอยเพื่อจัดเป็นระบบเดินรถทางเดียว แก้ปัญหารถติด แต่ระหว่างแซงรถช่องทางด้านซ้ายเพื่อจะไปกั้นรถที่แยกตัดถนนเพชรอุทัยนั้น ได้มีรถของผู้ร้องเรียนขับเข้ามา จึงเกิดเหตุการณ์ตามคลิปที่ปรากฏ

พล.ต.ต.จิรสันต์ ยังระบุอีกว่า ปกติเส้นทางดังกล่าวช่วงเวลาเร่งด่วน 06.30-09.30 น. จัดเป็นระบบเดินรถทางเดียว ซึ่งรถในซอยที่คุ้นเคยจะเข้าใจว่าสามารถใช้ได้สองช่องทางเพื่อออกมาปากซอยตัดเพชรอุทัย ส่วนกรณีของรถนำขบวนวีไอพีนั้น เบื้องต้นได้รับการแจ้งจากรถยนต์คันดังกล่าวว่ามีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งขณะนั้นรถติดสะสมถึงเขต สน.ทองหล่อ จราจรคันดังกล่าวจึงอำนวยความสะดวกและนำรถยนต์คันดังกล่าวมาเพื่อให้พ้นพื้นที่ที่มีรถติดสะสม ไม่ใช่กรณีเป็นรถนำเป็นการประจำแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามทาง บช.น.ได้สั่งการให้ สน.ทองหล่อ ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว หากปฏิบัติไม่เป็นไปตามระเบียบและข้อกฎหมาย จะได้ดำเนินการทางวินัยต่อไป ซึ่งกรณีการขับรถนำไปอาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและกระทบต่อภาพลักษณ์ของตำรวจ หากจะแก้ปัญหาจราจรติดขัดหรือป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ให้ใช้วิธีอื่นแทน โดยจะได้กำชับการปฏิบัติงานตำรวจจราจรในภาพรวมต่อไป อย่างไรก็ตามทางบช.น.ขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบ และขออภัยที่ทำให้ประชาชนเกิดความไม่สะดวกในการใช้รถใช้ถนนและเข้าใจผิด พร้อมปรับปรุงการปฏิบัติงานให้มีความเหมาะสมต่อไป.