เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ.วิทยาลัยเทคนิคระยอง และนายวีระชัย สมบัติกำไร ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง พาครู และบุคลากรทางการศึกษาแผนกวิชาปิโตรเคมีทั้ง 2 แห่ง จำนวน 34 คน เดินทางไปศึกษาดูงานนอกสถานที่ ภายใต้โครงการศึกษาดูงานนอกสถานที่ กระบวนการบ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2568 ได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและพลังงานทดแทนของนายประสิทธิ์ ตระการฤทธิ์ ม.13 บ้านโนนแดง ต.บุ่งคล้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
โดยดูการสาธิตกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงจากพลาสติกจากเตาเผากลั่น และการทดลองใช้จริงกับเครื่องมือทางการเกษตร และรถจักรยานยนต์ โดยการศึกษาดูงานนอกสถานที่ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์ และแนวคิดใหม่ๆ ในการปฏิบัติงานแก่ครู และบุคลากร และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการพัฒนาตนเองและพัฒนาการจัดการเรียน การสอนของวิทยาลัยฯ ทั้ง 2 แห่ง ให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียน
นายกิตติพงค์ เปิดเผยว่า การศึกษาดูงานครั้งนี้ มุ่งเน้นในเรื่องขององค์ความรู้ของการเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนขยะให้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งนี้ในฐานะที่วิทยาลัยเทคนิคทั้ง 2 แห่งอยู่ในเขต EEC ของ จ.ระยอง มีการเปิดการเรียน การสอนในสาขาปิโตรเคมี, เคมีอุตสาหกรรม, เทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ และสาขาช่างอุตสาหกรรม ซึ่งทางวิทยาลัยฯ เห็นว่าภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือปราชญ์ชาวบ้านที่มีการสร้างเป็นนวัตกรรมแล้ว ก็อยากจะมีการต่อยอดโดยนำเทคโนโลยีที่นักเรียน นักศึกษามีอยู่ทั้งในสาขาอื่นที่มีความเชื่อมโยงกันด้วย มาบูรณาการร่วมกัน เพื่อที่จะพัฒนาภูมิปัญญาชาวบ้านที่เปลี่ยนขยะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้คิดค้นขึ้นมาได้ดังกล่าว เพื่อพัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้น รวมทั้งสาขาวิชาเกี่ยวข้องสามารถนำไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าของภูมิปัญญาชาวบ้านได้ โดยเฉพาะคุณสมบัติของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากพลาสติกนำไปใช้ได้จริง และตอบโจทย์ของภูมิปัญญาชาวบ้านที่คิดค้นขึ้นมาหลาย 10 ปี เพื่อให้เกิดความยั่งยืน
นายประสิทธิ์ เปิดเผยว่า แนวคิดเริ่มแรก ตนต้องการลดโลกร้อน ซึ่งประเทศไทยมีปัญหาเรื่องขยะทั้งในชุมชน และทั่วประเทศ จึงได้คิดค้นนำขยะพลาสติกมาทำเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าว ซึ่งตนเดินทางไปเป็นวิทยากรเผยแพร่องค์ความรู้ดังกล่าวให้กับประชาชน สถานศึกษา และองค์กรต่างๆ มาทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ซึ่งการที่วิทยาลัยฯ ทั้ง 2 แห่ง มาศึกษาดูงานครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ดีที่จะได้ช่วยกันต่อยอดให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นไป ซึ่งตนพร้อมจะไปเป็นที่ปรึกษาให้ด้วย เพื่อให้โครงการของวิทยาลัยฯ ทั้ง 2 แห่ง เกิดประโยชน์แก่ประชาชน และประเทศชาติโดยรวมต่อไป.