จากนั้นเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ก.พ. 68 ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน และคณะเข้ากราบนมัสการพระธรรมวัชรจริยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 เสร็จเรียบร้อยแล้ว  ต่อมานายทักษิณ ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน อาทิ การแสดงรำหมอลำจากกลุ่มสตรีในพื้นที่ สะท้อนถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่นและความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน

ก่อนพบปะประชาชน โดยมีประชาชนรอให้การต้อนรับพร้อมมอบดอกกุหลาบและถือป้ายให้กำลังใจ โดยมีข้อความระบุว่า “รักท่านทักษิณนายกฯ ในดวงใจ”และ “ชาวนราธิวาสรักท่านทักษิณ” โดยนายทักษิณ กล่าวว่า ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน เห็นว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ ควบคู่ไปกับการจัดการปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ ซึ่งหัวใจสำคัญของการแก้ไขปัญหาคือ การเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายได้หันหน้าเข้าหากัน พูดคุย และร่วมกันหาแนวทางแก้ไขอย่างสันติ การสื่อสารและความร่วมมือคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จ 

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้การต้อนรับ ซึ่งตนไม่ได้มาจังหวัดนราธิวาสเกือบ 20 ปีแล้ว วันนี้ได้กลับมาก็ดีใจและมีความเชื่อมั่นในศักยภาพทางเศรษฐกิจของจังหวัดนราธิวาสมาโดยตลอด ก็อยากจะเห็นจังหวัดนราธิวาสได้พัฒนามากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาต้องควบคู่ไปกับการเมืองที่สันติสุข ซึ่งจริงๆ ทุกศาสนาได้รับการสั่งสอนให้รู้จักคำว่าสันติสุข และการให้อภัยซึ่งกันและกัน ตนจึงมีความรู้สึกว่าวันนี้มีทั้งพี่น้องชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสลิมมาอยู่ร่วมกันทำให้เห็นเป็นภาพอันสวยงาม ฉะนั้นนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้วที่จะนำให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเราได้กลับมามีสันติภาพ และมีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเต็มที่อีกครั้ง ซึ่งตนมีความเชื่อมั่นในเรื่องศักยภาพทางเศรษฐกิจ ก็จะได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ขอให้พี่น้องอดทนอีกนิด

“วันนี้จำนวนไทยพุทธหายลงไปเยอะ ส่วนหนึ่งก็มาจากความไม่สงบและอีกส่วนหนึ่งคิดว่าระยะหลังอัตราการเกิดมีน้อยกว่าอัตราการตาย จำนวนประชากรเริ่มน้อยลงและโรงเรียนต่างๆ ก็ปิดลงไปเพราะว่ามีเด็กเกิดใหม่น้อยลง แต่พี่น้องชาวมุสลิมหรือชาวคาทอลิก เขาจะมีความเชื่อเรื่องของการคุมกำเนิด เพราะฉะนั้นถ้าไม่คุมกำเนิดก็จะมีลูกหลานตามปกติ ส่วนของคนพุทธเราไม่ได้มีข้อห้ามตรงนี้ หลายคนก็จะคำนึงถึงเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลักก็อาจจะมีลูกน้อยลง” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ก็ประเทศไทยมีอัตราการเกิด และอัตราการตายใกล้เคียงกัน ซึ่งก็อยากจะได้เห็นเด็กเกิดขึ้นมาใหม่เยอะๆ ฉะนั้นเราต้องช่วยกันทำเศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาให้ได้ ทำให้ยาเสพติดหมดไปให้ได้ เพื่อทำให้เรากลับมาในสถานการณ์ปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ ตนได้บอกกับผู้ใหญ่และคณะต่างๆ ว่าเมื่อสมัยตนเป็นนายกฯ ตั้งใจจะทำงานให้เสร็จ แต่ยังไม่เสร็จ วันนี้มีความรู้สึกว่าอยากเอาความคิดเดิมๆ ที่น่าจะทำให้การแก้ปัญหากลับมาสู่หนทางอีกครั้ง จึงอยากบอกกับพี่น้องให้ทราบว่าตนตั้งใจ การที่มาในครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะเกิดประโยชน์กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมาก.