สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงกินชาซา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ว่า การรุกคืบเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ ในภูมิภาคที่อุดมไปด้วยทรัพยากรทางวัฒนธรรม แต่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งหลายครั้งตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มกบฏเอ็ม 23 และพันธมิตรจากรวันดา สามารถยึดฐานที่มั่นสำคัญได้สำเร็จ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักรบกลุ่มกบฏเอ็ม 23 เข้าควบคุมเมืองบูคาวู เมืองเอกของจังหวัดคิวูใต้ หลังยึดครองเมืองโกมา เมืองเอกของจังหวัดคิวูเหนือ เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว
“สถานการณ์ด้านความมั่นคงในภาคตะวันออกของดีอาร์คองโก อยู่ในระดับที่น่าตกใจ” ซูมินวา กล่าวต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชอาร์ซี) ในเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมกับเสริมว่า ดีอาร์คองโกมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 7,000 ราย นับตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา
7,000+ killed in eastern DR Congo since January: PMhttps://t.co/01Eal2hIlU
— Press TV ???? (@PressTV) February 24, 2025
อย่างไรก็ตาม ซูมินวากล่าวในการแถลงข่าวว่า ขณะนี้ทางการดีอาร์คองโก ยังไม่สามารถระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
ทั้งนี้ สหประชาชาติ (ยูเอ็น) รายงานเมื่อช่วงต้นเดือนว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,000 ราย นับตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. ในภาคตะวันออกของดีอาร์คองโก ในช่วงเวลาเดียวกับที่กลุ่มกบฏเอ็ม 23 บุกยึดเมืองโกมา
ขณะที่ สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นโอซีเอชเอ) สถานการณ์ความปลอดภัยในเมืองโกมา และเขตชานเมือง “ยังคงน่าวิตกกังวล” เนื่องจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ เช่น การปล้นบ้าน การโจรกรรม และการทำร้ายร่างกาย ก่อให้เกิด “บรรยากาศของความหวาดกลัว”.
เครดิตภาพ : AFP