สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ว่า สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ออกแถลงการณ์ว่า กลุ่มแฮกเกอร์ชื่อ “เทรดเดอร์ เทรเตอร์” หรือ “ลาซารัส” ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจารกรรมทรัพย์สินดิจิทัลมูลค่าราว 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 50,784 ล้านบาท) จาก “บายบิต” (Bybit) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ขนาดใหญ่อันดับสองของโลก
แถลงการณ์ของเอฟบีไอระบุด้วยว่า แฮกเกอร์กลุ่มดังกล่าว น่าจะนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่ขโมยมาได้ แปลงเป็นบิตคอยน์ หรือสินทรัพย์เสมือนอย่างอื่น ซึ่งกระจายอยู่ตามบล็อกเชนหลายแห่ง แล้วท้ายที่สุด น่าจะมีการฟอกเงินเพิ่มเติมอีก แล้วเข้าสู่กระบวนการแปลงเป็นสกุลเงินเฟียต ซึ่งหมายถึงเงินตราที่ใช้กันทั่วไป โดยรัฐบาลและธนาคารกลางของแต่ละประเทศรับรอง
???? JUST IN: FBI released a public service announcement saying North Korea is responsible for the $1.5 billion Bybit hack.
— Cointelegraph (@Cointelegraph) February 27, 2025
The FBI called on private sector entities including RPC node operators, exchanges, and DeFi services to block transactions with addresses TraderTraitor… pic.twitter.com/7majSUeYVn
ทั้งนี้ กลุ่มลาซารัสเป็นที่รู้จักและจับตามองโดยฝ่ายตะวันตกมานาน เชื่อว่ามีฐานอยู่ในหลายประเทศ และเอฟบีไอเคยกล่าวหา แฮกเกอร์ของลาซารัส ปล้นสินทรัพย์ดิจิทัลของเงินคริปโต “อีเธอเรียม” และ “ยูเอสดีคอยน์” จากเครือข่ายบล็อกเชน “โรนิน” เมื่อปี 2565 สร้างความเสียหายสูงถึง 620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20,998.16 ล้านบาท)
อนึ่ง เกาหลีเหนือมีสำนักงานด้านกิจการไซเบอร์เป็นของตัวเอง ก่อตั้งเมื่อช่วงกลางยุคทศวรรษที่ 1990 ปัจจุบันมีบุคลากรในสังกัดมากกว่า 6,000 คน มีรหัสเรียกว่า “สำนักงาน 121” และมีฐานปฏิบัติการในต่างประเทศด้วย รวมถึง จีน มาเลเซีย รัสเซีย อินเดีย และเบลารุส อ้างอิงตามการเปิดเผยของสหรัฐ เมื่อปี 2563.
เครดิตภาพ : AFP