กำลังกลายเป็นประเด็นที่หลายคนแห่สงสัยล้นหลาม หลังจากมีบัญชีผู้ใช้พันทิปรายหนึ่ง ได้ออกมาตั้งกระทู้ถามว่า “คือเราสงสัยมาก ว่าทำไมวิชาคณิตศาสตร์ เราต้องมานั่งหา x, y, z ทั้งที่ในชีวิตประจำวันจริง ๆ เราไม่ได้เอามาใช้”

ซึ่งหลังจากที่กระทู้เผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมาก เข้ามาช่วยกันไขข้อสงสัยนี้ อาทิ
– ในวิชาคณิตศาสตร์ แต่จริง ๆ แล้วการเรียนคณิตศาสตร์ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องไปใช้มันในชีวิตประจำวันตรงๆ เลยทุกอย่าง แต่คณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือที่ช่วยพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีระเบียบ เช่น การแก้ปัญหาที่ยากๆ หรือการคิดอย่างมีขั้นตอน การหาค่า x, y, z เป็นการฝึกให้เราเรียนรู้การคิดแบบเชิงระบบ การทำความเข้าใจปัญหาที่ซับซ้อน และการหาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม ซึ่งเป็นทักษะที่นำไปใช้ได้ในหลายๆ ด้านในชีวิตประจำวัน เช่น การตัดสินใจเรื่องต่างๆ ที่ต้องการการวิเคราะห์ หรือการบริหารจัดการเวลาและทรัพยากร อีกอย่างคือ คณิตศาสตร์ยังเป็นพื้นฐานของวิชาอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ฟิสิกส์ เศรษฐศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น ที่อาจจะต้องใช้สมการหรือคำนวณต่างๆ ที่คล้ายกับที่เราฝึกในบทเรียนคณิตศาสตร์

– ใช่ครับท่านพวกคณิตศาสตร์ในหัวข้อสมการการแก้สมการ X Y Z นั้น เราไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน แต่นักเรียนที่เรียนสายวิทย์จะต้องมีมาตรฐานให้นักเรียนสามารถแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ในระดับนี้ครับ มันคือมาตรฐานในการ “สร้างคนที่มีความรู้” ครับท่านถ้าหากคณิตศาสตร์สอนแค่บวกลบคูณหาร, อัตราส่วน, บัญญัติไตรยางแค่นี้จบ มันจะสร้างคนที่มีความรู้เพื่อไปใช้งานในวิศวกรรมหรือศาสตร์สาขาอื่นๆ ไม่ได้เลย เจ้าของกระทู้สมัคร account ใหม่เอี่ยมตั้งกระทู้เดียวและไม่เคยตอบกระทู้ ก็น่าจะเหมือนกับที่ผ่านๆ มาล่ะครับ คงจะเป็นเด็กที่ทำโจทย์คณิตศาสตร์ไม่ได้แล้วเกิดความหงุดหงิดข้องใจ

– เราอยู่ รพ. ได้ใช้อยู่นะ หาค่าจากสูตรคำนวณต่างๆ การหาปริมาณน้ำเกลือ ยาที่เหมาะสม ค่าแล็บ หมอต้องพกเครื่องคิดเลข ไม่งั้นก็ต้องยืมพยาบาล แต่สูตรอย่างเป็นทางการจริงๆ มันจะยาวมาก ก็ excel สิ จะเร็วกว่าพวก scientific calculator เยอะ พวกวิศวะก็ไม่ได้คิดเลขเอง ใช้ตัวช่วยกันทั้งนั้น แต่รับประกันว่าถ้าคุณเรียน ประติมากรรม ปูนปั้น อะไรพวกนี้สูตรคำนวณก็ไม่ได้ใช้หรอก ใช้วิชากายวิภาคมากกว่า ไปท่องชื่อกล้ามเนื้อเถอะ

– เคยถามอาจารย์แบบนี้แหละ ว่าเรียนไปทำไม ท่านคงขี้เกียจอธิบาย เลยตอบสั้นๆ ว่า เขาเอาไว้คัดคนโง่ออก

– มันไม่ใช่ทุกคนต้องใช้ แต่คนที่จะไปเรียนต่อเขาใช้ เช่นจะไปทำงานวิศวะใช้คำนวณยากกว่านี้อีก รัฐบาลบังคับเรียนทุกคน เหมือนให้ลิง, นก, ปลา เรียนปีนต้นไม้ ไม่ใช่ทุกคนจะปีนเก่ง เรียนจบแล้วเอาเกรดมากางดูใครเก่งด้านไหน คนนี้คณิตเกรด 4 ไปเรียนต่อวิศวะไหม คนนี้ภาษาอังกฤษไปเรียนต่อไหม แล้วคนเก่งกลางๆ คณิต 2 วิทย์ 2 ภาษา 1 ไปหาทำงานอย่างอื่นไหม เช่น ทำสวน ทำนา เป็นช่างทำผม โลกมันไม่ได้จำกัดหรอกว่าคุณต้องเป็นยังไง เพราะงั้นคุณอยากทำงานอะไรคุณก็ควรเอาดีด้านนั้นๆ ดีกว่า

– คำถามเจ้าของกระทู้ไม่ได้ไร้สาระมากขนาดนั้นนะครับ ขนาดผู้ใหญ่หลายคนยังตอบคำถามเจ้าของกระทู้ด้วยคำอธิบายเข้าใจง่ายๆ กระชับไม่ได้เลย จริงๆ เรียกใช้ตัวแปรดีกว่าครับ ตัวแปรคณิตศาสตร์มีไว้เพื่อบอกว่าเราไม่มีรู้ค่าของตัวนั้นในสมการ แต่มันยังมีค่าบางอย่างอยู่นะ สั้นๆ แค่นี้ครับ จริงๆ บวกลบคูณหาร ความน่าจะเป็น สถิติเป็นคณิตศาสตร์พื้นฐานซึ่งการเป็นคณิตศาสตร์พื้นฐานสำคัญสำหรับในชีวิตประจำวันกว่าคณิตศาสตร์ขั้นสูง เช่น เรามาใช้จ่ายเงินตรา เปรียบเทียบทางในแผนที่ ตัดสินใจล่วงหน้าได้ด้วย แนะนำแค่คณิตศาสตร์พื้นฐานแน่น ก็สามารถเข้าใจได้ทุกสิ่งแล้วครับ ถ้าพยายามจะเข้าใจจริงๆ ในอเมริกาจึงมีชั้นเรียนแยกคนเรียนคณิตศาสตร์ขั้นสูงอยู่เผื่อใครเปลี่ยนใจจากสังคม ภาษา หรือวิชาอื่นๆ ไม่ถูกใจหรือชอบคณิตศาสตร์อยู่แล้วย้ายมาเรียนขั้นสูงได้ ซึ่งประเทศไทยไม่มีการเปิดโอกาสให้นักเรียน ที่อยู่วัยหัวเลี้ยวหัวต่อว่าชอบอะไรสามารถย้ายหรือซ้ำชั้นเพื่อเรียนคณิตศาสตร์ขั้นสูงหรือวิชาอื่นขั้นสูงได้ตามใจสะดวกที่อยากย้าย การมีสายให้เลือกเลยยังมีข้อเสียในวัยที่กำลังค้นพบตัวเองด้วยครับ อย่างคนที่ชอบสังคมอยากมาเรียนภาษาฝรั่งเศสขั้นสูง หรือคนเรียนภาษาอยากเรียนวิทยาศาสตร์หรือเศรษฐศาสตร์ขั้นสูง…

คลิก : เพื่อชมต้นกระทู้พันทิป