เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 มี.ค. 2568 ที่หอประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ถนนวิภาวดี กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ภายหลังบรรยายให้กับนักเรียนหลักสูตรการบริหารความมั่นคงของสำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 61 ได้ตอบคำถามถึงกรณีฟอร์มรัฐมนตรีและการถวายสัตย์ปฏิญาณ จะทำงานโดยซื่อสัตย์สุจริตต่อชาติบ้านเมือง แต่ปรากฏว่าปฏิบัติงานไปแล้วเกิดการผิดพลาดขึ้นมานั้นจะตกนรกหรือไม่
นายอนุทิน กล่าวว่า ตนก็ไม่เคยคิดทำอะไรที่ผิดแปลกแปลกแนว ก็เลยไม่กลัวเรื่องตกนรก แต่สิ่งที่เรามาทำวันนี้ นอกเหนือจากคำว่าปฏิญาณ คือหน้าที่ที่เรามาทำภารกิจที่เราไปสัญญากับชาวบ้าน ย้ำว่าพวกตนคือผู้ที่ถูกเลือกตั้งเข้ามา ไม่ได้ลากตั้งเข้ามา มันไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ผู้ที่มีการเก่งกาจด้านเศรษฐกิจหรือด้านการแพทย์แล้วเชิญเข้ามาเป็น แต่มาจากพื้นที่ล้วน ๆ ต้องลงไปพบกับชาวบ้าน ต้องไปสัญญากับชาวบ้านหาเสียง พูดแล้วให้เขาเชื่อแล้วเลือกเข้ามา เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็มีสิ่งที่ต้องทำให้เขา สิ่งที่ตนกลัวมากกว่าตกนรกก็คือสิ่งที่ไปสัญญาแล้วทำไม่ได้ แล้วเขาไม่เลือกกลับเข้ามา นี่คือสิ่งที่กลัว ยุคนี้เปลี่ยนไป ยุคนี้ข่าวสารถึงชาวบ้านทั้งหมด เราไปพูดอะไรที่ไหน ไปผิดสัญญากับเขา เขากดส่งแชร์ทีเดียว ก็ไปทั้งชุมชนทั้งหมู่บ้านแล้ว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ซึ่งโอกาสในทางการเมือง ถ้าทำให้ชาวบ้านหมดความเชื่อถือ โอกาสที่จะกลับมาอีกครั้ง ก็รอกันอีกเป็น 10 ปี ไม่ใช่ว่าต้องซื่อสัตย์เพราะไปสาบานไว้ แต่เพราะไปสัญญากับชาวบ้านไว้ ก็ต้องทำตามที่เราสัญญา ตอนนี้ไปไหนกัญชาถูกทวงมา ทั้งที่เราก็ทำให้เขาระดับหนึ่งก็ไม่ได้ ต้องออกเป็นกฎหมายให้ได้ก่อน วันนี้ก็นั่งคุยกับพรรคเพื่อไทยอยู่ว่าต้องออกเป็นกฎหมาย ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยเขาก็เห็นด้วยว่าต้องออกเป็นกฎหมาย แต่ต้องมานั่งดูว่า กฎหมายจะเอาแบบสุดโต่งแบบภูมิใจไทยจ๋าเขาก็คงไม่ไหว ซึ่งตนก็ต้องไปอธิบายกับประชาชนว่าทำได้แบบนี้
////