เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ยื่นหนังสือถึง นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอให้ตรวจสอบงานก่อสร้างอาคารเรียนที่อาจส่อในทางทุจริต โดยนายแทนคุณ กล่าวภายหลังการยื่นหนังสือว่า เนื่องจากโรงเรียนบ้านในเมือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ได้งบก่อสร้างอาคารเรียน 2 ชั้น 8 ห้องเรียน โดยงบประมาณที่ใด้รับการจัดสรรจำนวน 5,402,000 บาท โดยเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2564 ผู้ใช้อาคารเรียน พบข้อพิรุธ คือ ตำแหน่งการติดตั้งของกระดานดำไม่มีคุณภาพ รวมถึงความเรียบร้อยของงานก่อสร้างและอื่น ๆ ในเวลาต่อมา นายช่างโยธาชำนาญการ ผู้ควบคุมงานชี้แจงในบันทึกข้อความลงว่า งานติดตั้งกระดานดำ ได้ก่อสร้างตามเป็นแบบมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รับรองแบบโดยผู้มีวิชาชีพทั้งวิศวกรโยธา และสถาปนิก ส่วนความสวยงามเรียบร้อย เป็นเรื่องสถาปัตยกรรม ไม่เกี่ยวกับงานโครงสร้าง

นายแทนคุณ กล่าวอีกว่า จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ครูในโรงเรียน ผู้ควบคุมการก่อสร้างแสดงความไม่พอใจ อ้างความสนิทสนมกับผู้กว้างขวางในวงสังคม เพื่อข่มขู่ผู้ร้องเรียนต่อหน้าผู้บริหาร และเพื่อนครู หลังจากนั้นกลับกลายเป็นว่าถูกด้อยค่า และมีการถูกทำให้เข้าใจว่าคิดไปเอง มีอคติ ดังนั้นนั้นเพื่อเป็นการรักษาเกียรติของวิชาชีพครูของผู้ร้อง จึงได้ดำเนินการสอบถามเรื่องของคุณสมบัติของกระดานดำ เพราะมีข้อสงสัยบางประการว่าอาจมีการนำวัสดุที่ไม่ตรงตามแบบเข้ามาในการก่อสร้าง ความเรียบร้อยของสถาปัตยกรรมและระบบโคมไฟฉุกเฉินไม่ทำงาน แต่ไม่ได้รับความสนใจ ถูกปล่อยผ่าน ปัญหาดังกล่าว ได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงศึกษาธิการ กรมโยธาธิการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า 

นายแทนคุณ กล่าวอีกว่า เพื่อความเป็นธรรมและโปร่งใส จึงขอให้ตรวจสอบ ดังนี้ 1.คุณสมบัติของกระดานดำ 8 ชุด ชุดละ 14,000 บาท และมีอุปกรณ์อื่นที่อาจจะมีการทุจริต 2.ปัญหาทางด้านของสถาปัตยกรรมที่มีการใช้งบประมาณสูงเกินหรืออาจจะส่อไปในทางทุจริต 3.พฤติกรรมของครูผู้ที่ข่มขู่ผู้ร้อง 4.ขอให้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการตรวจสอบ เนื่องจากมีความคืบหน้าน้อยมาก

ด้านนายคัมภีร์ กล่าวภายหลังรับหนังสือ ว่า จะนำเรื่องดังกล่าวกราบเรียนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อมีดำริส่งไปให้กับคณะ กมธ. ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการสอบสวนกรณีนี้ว่าเป็นอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ ผู้ร้องเรียนได้นำปัญหาแจ้งไปให้หน่วยงาน แต่ไม่มีความเคลื่อนไหว ดังนั้น สภาผู้แทนราษฎรเป็นของประชาชน ปัญหาข้างต้นจะต้องนำไปสู่การแก้ไข ก่อนที่เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่คาดไม่ถึงจะเกิดขึ้น