เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 มี.ค.(ตามเวลาท้องถิ่นนครซูริก สมาพันธรัฐสวิส ซึ่งช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง)  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือกับผู้บริหารบริษัท Compagnie Financière Richemont S.A. หรือ Richemont บริษัทสัญชาติสวิส ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านสินค้าแบรนด์หรู โดยเฉพาะในหมวดเครื่องประดับ นาฬิกา และแฟชั่น เช่น Cartier, Van Cleef & Arpels, Chloé และ Dunhill เป็นต้น ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2531 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเบลวิว สมาพันธรัฐสวิส

โดยนายกฯ และผู้บริหารบริษัทฯ หารือด้านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มโอกาสให้สินค้าสร้างสรรค์แบรนด์ไทย ซึ่งหวังที่จะกระชับความร่วมมือกับบริษัทฯ เพื่อร่วมพัฒนายกระดับการดำเนินงานและส่งเสริมศักยภาพแบรนด์และนักออกแบบไทย รวมถึงการเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบคุณภาพของไทย พร้อมย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกในการลงทุน รวมทั้งลดขั้นตอนในการขอใบอนุญาตและขั้นตอนในการทำงานซึ่งอาจทำให้ล่าช้า ตลอดจนสนับสนุนการทำงานที่ตรงตามเทคโนโลยีปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าจะสนับสนุนให้ภาคเอกชนต่างประเทศลงทุนในไทยได้สะดวกยิ่งขึ้น และเพิ่มโอกาสสินค้าไทยในต่างประเทศด้วย นอกจากนี้ นายกฯ และผู้บริหารบริษัท ยังได้พูดคุยถึงการสนับสนุนและแลกเปลี่ยนระหว่างสถาบันด้านการศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพแรงงาน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตร 

โดยนายกฯ กล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญด้านพลังงานสะอาด ความยั่งยืน รวมถึงการเสริมสร้างความสามารถทางด้านดิจิทัล และพร้อมที่จะร่วมมือกับบริษัทฯ เพื่อแลกเปลี่ยนโอกาสระหว่างกัน

นอกจากนี้ นายกฯ ยังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก และทวีตข้อความผ่าน X ระบุว่า อีกหนึ่งการหารือที่น่ายินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง คือการพบหารือกับทีม Richemont เพื่อโอกาสของงานฝีมือไทย โดยเฉพาะวงการจิวเวลรี่และการออกแบบประเทศไทยโดดเด่นและแข็งแกร่งในงานฝีมือเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะงานจิวเวลรี่ไทย ที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา งานออกแบบจิวเวลรี่ไทยโดดเด่น มีแบรนด์จิวเวลรี่ไทยใหม่ๆ มีนักออกแบบหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย งานจิวเวลรี่ไทยเองก็มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ สามารถขยายตลาดไปสู่ระดับโลกได้  

นายกฯ หารือผู้บริหาร ‘Richemont’ยกระดับจิวเวลรี่ไทยสู่ตลาดโลก

นายกฯ ระบุอีกว่า ไม่เท่านั้น เรายังมีจุดเด่นเรื่องฐานการผลิตที่สำคัญให้กับโรงงานหลายประเทศทั่วโลก แต่แน่นอนว่าเรายังพัฒนาต่อยอดได้อีกค่ะ ทั้งองค์ความรู้งานดีไซน์, การบริการธุรกิจ Luxury, โอกาสของคนไทยในการ explore อุตสาหกรรมนี้ในระดับโลก และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ ดิฉันจึงได้หารือกับทีม Richemont เรื่องการร่วมฝึกทักษะด้าน Luxury Products อย่างครบวงจร, การร่วมกับมหาวิทยาลัยไทย หรือโรงเรียนออกแบบในไทย พัฒนาหลักสูตรงานออกแบบร่วมกัน รวมทั้งหารือขยายฐานการผลิตในไทย ซึ่งจะเป็นทั้งการยกระดับแรงงานด้านจิวเวลรี่ไทย และขยายการลงทุนของเครือ Richemont ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เป็นอีกหนึ่งวงหารือที่น่ายินดีและเชื่อว่าจะอีกหนึ่ง ‘โอกาส’ อุตสาหกรรมจิวเวลรี่ อุตสาหกรรมออกแบบ อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้นายกฯ และคณะเสร็จสิ้นภารกิจ ที่นครซูริก สมาพันธรัฐสวิส เรียบร้อยแล้วจะเดินทางกลับประเทศไทย โดยจะเดินทางถึงประเทศไทยในวันที่  9 มี.ค.นี้.