เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 11 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้ตรวจสอบสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กรณีลงทุนซื้อตึกมูลค่า 3 พันล้านบาท ในราคา 7 พันล้านบาท ว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการสรรหาข้อเท็จจริง โดยต้องรอนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ลงนามเพื่อตั้งคณะกรรมการ ซึ่งเรื่องนี้นายอนุทินไม่ได้นิ่งเฉย โดยคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจะออกในวันนี้ หรือไม่ก็วันพรุ่งนี้ (12 มี.ค.) ส่วนใครจะเป็นประธานและมีกรรมการกี่คน ขอให้รออีกนิดหนึ่ง ทั้งนี้หลังจากมีการตั้งคณะกรรมการเสร็จแล้ว ต้องให้เวลาคณะกรรมการหาข้อเท็จจริงให้ได้ ส่วนกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบของคณะกรรมการนั้น ต้องรอดูนายอนุทินว่าจะให้กรอบเวลาเท่าไหร่ แต่ขอให้สบายใจได้ ตนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเชื่อว่านายอนุทิน ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงแรงงานก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเช่นกัน
การที่ สส. บางคนไปให้สัมภาษณ์ขุดคุ้ย ไปหาข้อเท็จจริงเป็นสิ่งที่ดี เพราะถ้าเรามั่นใจว่าเรามีความโปร่งใสจริง ก็ไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาขุดคุ้ย มั่นใจว่า ทุกกระทรวงพร้อมที่จะให้ตรวจสอบ
เมื่อถามว่าจะเป็นการตรวจสอบการลงทุนซื้อตึกสูง หรือโครงการทั้งหมดที่ถูกตั้งข้อสังเกต นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ดูรายละเอียดทั้งหมด เพื่อความโปร่งใส ในส่วนนี้ตนเองไม่อยากไปโทษใคร เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างทางประกันสังคมทำด้วยความโปร่งใส ส่วนการซื้อตึกเป็นอย่างไร ตนเองยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่เชื่อว่า ก่อนที่จะซื้อต้องมีการศึกษา และอย่างน้อยที่สุดจะต้องมีการนำบริษัทคนกลางเข้ามาประเมิน เพราะโดยปกติผู้ซื้อก็อยากซื้อของถูก ผู้ขายก็อยากขายของแพง ฉะนั้นเราต้องหาบริษัทกลางมาเป็นผู้ประเมินว่าราคาสินทรัพย์ในแต่ละอย่างมีความเหมาะสมอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ คิดว่าตรงนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ประกันสังคม เพราะทุกวันนี้ ทุกอย่างวิ่งมาที่สำนักงานประกันสังคม เชื่อว่าทางข้าราชการอาจจะไม่สบายใจ เพราะหากมีการไปกดดันเยอะ ๆ ก็ไม่ทราบว่าผลสรุปจะเป็นอย่างไร
ขณะที่ในคณะกรรมการตรวจสอบ จะมีบุคคลภายนอกเป็นส่วนใหญ่ เพราะถ้าเป็นคนใน ก็เป็นคนในไว้สำหรับซัพพอร์ตข้อมูลเท่านั้น แต่หลักใหญ่ โดยเฉพาะประธาน และกรรมการเกินกึ่งหนึ่ง ต้องเป็นคนนอก เพื่อความโปร่งใส
เมื่อถามอีกว่าจะมีการตั้งนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นคณะกรรมการด้วยหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ปลัดกระทรวง แต่ต้องดูถึงเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ซึ่งปลัดกระทรวงแรงงานในช่วงที่ผ่านมา เคยเป็นอดีตเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ถูกตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เช่นกัน
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเงินของกองทุนประกันสังคมที่เอามาช่วยประชาชนน้อยเกินไป นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบวันนี้ที่สำนักงานประกันสังคม จะมีการประชุมเรื่องผลตอบแทนที่มีการปรับปรุง ซึ่งเมื่อครั้งที่ผ่านมา กรรมการหลายคนยังไม่ได้รับรายละเอียดข้อชี้แจงจากฝ่ายอนุกรรมการฯ จึงมีการประชุมกันที่สำนักงานประกันสังคม ฉะนั้นตนคิดว่าสิ่งต่างๆ ที่ออกมาในปัจจุบันนี้ อย่าคิดว่า ประกันสังคมทำไม่ถูกทุกเรื่อง เชื่อว่าประกันสังคมมีกรรมการมาจากหลายฝ่าย ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง โดยเฉพาะฝ่ายภาครัฐ เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่าง การที่จะผ่านบอร์ดประกันสังคมออกมา น่าจะมีการพิจารณาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะก่อนที่จะเข้าบอร์ดนั้น อนุกรรมการฯ ในแต่ละชุดต้องมีการนำเสนอบอร์ดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า “กระแสคือกระแส ตนกังวลว่า ถ้าสุดท้ายหากโหมกันเข้าไปเรื่อยๆ ประกันสังคมก็จะเป็นจำเลยของสังคม ซึ่งถ้าไม่ผิดจริง หรือไม่มีข้อผิดพลาดอะไรเลย การที่ไปกดดันประกันสังคมมากๆ อาจจะทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมกับเพื่อนๆ ในประกันสังคม”