สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ว่าทำเนียบมาลากันยังออกแถลงการณ์ ยืนยัน การจับกุมอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากนโยบายสงครามยาเสพติด
ทั้งนี้ การจับกุมอดีตผู้นำฟิลิปปินส์เกิดขึ้น ที่ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อากีโน ในกรุงมะนิลา เมื่อดูเตร์เตเดินทางกลับมาจากการไปพักผ่อนที่ฮ่องกง ขณะที่ทีมทนายความของดูเตร์เตประณามการจับกุมว่า “ละเมิดกฎหมาย” เนื่องจากการจับกุมเกิดขึ้นโดยไม่มีทนายความ และเจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงหมายจับของไอซีซีให้ดูเตร์เตได้รับทราบ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดูเตร์เตยืนกรานไม่มีทางยอมรับอำนาจตุลาการ และหมายจับของไอซีซี และสั่งให้ฟิลิปปินส์ถอนตัวออกจากการเป็นภาคีของธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศในการก่อตั้งไอซีซี เมื่อปี 2562
อนึ่ง ไอซีซีประกาศแผนการสืบสวนสอบสวนสงครามยาเสพติดของฟิลิปปินส์ อย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อเดือน ก.พ. 2561 แต่ระงับไปก่อนเมื่อเดือน พ.ย. 2564 เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมของฟิลิปปินส์กล่าวว่า ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้คู่ขนานอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ไอซีซีประกาศเมื่อเดือน ม.ค. 2566 กลับมาสืบสวนสอบสวน “ข้อสงสัยทั้งหมด” ด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และการสังหารนอกกระบวนการยุติธรรม “เพื่อการปราบปรามยาเสพติด” ของรัฐบาลฟิลิปปินส์ในยุคดูเตร์เต ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการมากกว่า 6,000 ราย โดยไอซีซียืนยัน “การมีอำนาจตุลาการที่ครอบคลุม” เนื่องจากการเกิดเหตุอยู่ในช่วงที่ฟิลิปปินส์ยังเป็นสมาชิกไอซีซี
แม้ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์ เคยมีท่าทีว่า จะไม่ให้ความร่วมมือกับไอซีซีในเรื่องนี้ และจะไม่มีทางส่งตัวดูเตร์เตไปยังกรุงเฮก แต่มีการวิเคราะห์เช่นกันว่า “การกลับลำ” ของมาร์กอส น่าจะเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งภายในรัฐบาล กับน.ส.ซารา ดูเตร์เต รองประธานาธิบดี ซึ่งเป็นบุตรสาวของดูเตร์เต และเธออยู่ในกระบวนการพิจารณาถอดถอนโดยสภา.
เครดิตภาพ : AFP
