ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งระบุเพียงชื่อว่า “แฟรงก์” ได้โพสต์ภาพของเปลือกหอยชนิดหนึ่งในเว็บไซต์เรดดิทซึ่งเขาถ่ายไว้ระหว่างที่เขาเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศอียิปต์ในช่วงวันหยุด เพื่อถามหาคำตอบว่าหอยที่มีเปลือกสวยงามในภาพคือหอยอะไรกันแน่ โดยที่ไม่รู้ตัวว่าเขารอดจากอันตรายร้ายแรงมาได้อย่างหวุดหวิด
แฟรงก์ถ่ายภาพหอยตัวนี้ไว้ระหว่างลงดำน้ำเล่นในเขตน้ำตื้นของทะเลแดง พร้อมกับใช้กล้องถ่ายใต้น้ำโกโปรบันทึกภาพไปด้วย เขาเขียนข้อความไว้ว่า “ผมคิดว่าผมเพิ่งพบเปลือกหอยที่สวยมากชิ้นหนึ่ง และกำลังคิดว่าจะเอามันกลับบ้านเป็นของที่ระลึก แต่ก็สังเกตเห็นว่ามันยังมีชีวิตอยู่ รู้สึกถึงน้ำหนักและความเคลื่อนไหวภายใน (เปลือก) ผมจึงตัดสินใจถ่ายรูปมันไว้”
หลายเดือนหลังจากนั้น ก็มีคนบอกแฟรงก์ว่า ความคิดที่จะเก็บเปลือกหอยแสนสวยที่เขาพบตรงก้นทะเลมานั้นเป็นความคิดที่ “เลวร้ายมาก” เขาจึงโพสต์ภาพเขาวางหอยดังกล่าวไว้บนฝ่ามือเปล่าๆ เพื่อหาเหตุผล
“พวกคุณช่วยบอกผมได้ไหมว่าเจ้าตัวนี้คืออะไร และผมกำลังตกอยู่ในอันตรายตรงไหน มันเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตผมจริงหรือ”
คำตอบก็คือใช่ แม้ว่าภายนอกของมันจะเป็นแค่เปลือกหอยที่มีลวดลายสวยงาม แต่มันคือหนึ่งในสัตว์ทะเลที่เราไม่ควรไปแตะต้องโดยเด็ดขาด เพราะพิษที่ร้ายแรงของมัน
หอยที่แฟรงก์ถ่ายภาพมานั้นคือหอยเต้าปูนลายผ้า (Textile cone snail) เป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก มักจะล่าเหยื่อด้วยฟันที่แหลมคม หอยประเภทนี้จะมีงวงที่ใช้ยิงเข็มพิษได้ เมื่อเป้าหมายโดนเข็มพิษของมัน จะมีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง เป็นอัมพาตหรือถึงแก่ชีวิตได้
หอยเต้าปูนลายผ้ามักจะอาศัยอยู่ตามพื้นทราย ใต้ปะการังและก้อนหินในเขตน้ำตื้น และมักจะโจมตีมนุษย์เมื่อถูกเหยียบขณะอยู่ในทะเลหรือถูกยกขึ้นมาจากน้ำ เข็มพิษของหอยเต้าปูนสามารถแทงทะลุชุดดำน้ำได้ จึงถือว่าเป็นสัตว์อันตรายที่ไม่ควรสัมผัสโดยตรง หากไม่รู้วิธีจับที่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ภาพของแฟรงก์ที่ถือหอยเต้าปูนด้วยมือเปล่านั้นทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากรุมวิจารณ์การกระทำของเขา โดยชี้ว่าเขาโชคดีมากที่รอดชีวิตมาได้และไม่ฉลาดเลยที่ทำแบบนี้ มีคนมากมายที่ต้องเสียชีวิตเพราะเก็บเปลือกหอยเต้าปูนใส่กระเป๋าแล้วโดยมันแทงด้วยเข็มพิษ ขณะที่ชาวเน็ตรายหนึ่งชี้ว่า กฎเหล็กข้อหนึ่งของการดำน้ำคือ “ห้ามแตะต้อง” อะไรก็ตามที่อยู่ในน้ำ ซึ่งช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดแก่นักดำน้ำและดีต่อระบบนิเวศใต้ทะเลด้วย
เมื่อโดนชาวเน็ตรุมสั่งสอนอย่างหนัก แฟรงก์ก็เข้ามาอธิบายว่า เขาเป็นเพียงนักท่องเที่ยวธรรมดาๆ จากประเทศที่ไม่มีทะเลซึ่งมักจะคิดว่าสัตว์ที่อันตรายที่สุดในทะเลคือฉลามและแมงกะพรุน ไม่ใช่หอยสวยๆ ตอนที่หยิบหอยตัวนั้นขึ้นมา เขาไม่ได้คิดเลยมันจะเป็นอันตราย แต่แน่นอนว่า หลังจากนี้เขาคงจะไม่ไปแตะต้องพวกมันอีกแล้ว
อาการของผู้ที่โดนพิษจากหอยเต้าปูนนั้นขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนและสายพันธุ์ของหอย ความเจ็บปวดที่เกิดจากพิษหอยเต้าปูนมีตั้งแต่ระดับแค่เจ็บแปลบไปจนถึงเจ็บปวดอย่างที่สุดจนยากจะทนไหว เข็มพิษอาจทำให้เกิดอาการชาเฉพาะที่ หรือลามไปยังบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดอาการป่วยอื่นๆ ตามมา เริ่มจากอาการอ่อนแรงในช่วงแรก เหงื่อออก การมองเห็นเปลี่ยนแปลงไปจนถึงกล้ามเนื้อเป็นอัมพาตทั่วร่าง ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว หัวใจและหลอดเลือดล้มเหลว และตกอยู่ในสภาวะโคม่า
หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จะเสียชีวิตอย่างรวดเร็วภายในเวลาราว 1-5 ชั่วโมง
สำหรับผู้ที่เจอหอยเต้าปูนสายพันธุ์ที่มีพิษไม่ร้ายแรง ก็อาจเกิดอาการชา แขนขาขยับไม่ได้ เป็นอัมพาต
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : Reddit, GETTY IMAGES
