เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 13 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์​ถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ตั้งคำถามถึงการนำสื่อมวลชนไปดูความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ที่ประเทศจีน ว่า เครื่องบินมีที่นั่งทั้งหมด 20 กว่าที่ เป็นเครื่องของกองทัพ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาไป 8 ชั่วโมง ไม่ต้องไปเปลี่ยนเครื่อง จำนวนที่นั่งมีเท่านี้ จริงๆ หากเอาสื่อของรัฐ เช่น NBT หรือช่อง 5 ไปเป็นพูลก็ได้ แต่เราพยายามให้มีลักษณะพิเศษ คือมีทั้งสื่อที่เป็นตัวแทนหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ออนไลน์ ซึ่งมีข่าวว่าทั้งหมดมาขอที่ตน และตนเป็นผู้ตัดสินใจ จริงๆ ไม่เกี่ยวเลย เป็นการร่วมกันทำงาน โดยให้ทีมโฆษกรัฐบาลเป็นผู้ประสานและคัดเลือกมา ส่วนที่กระทรวงกลาโหมก็ให้ทางโฆษกกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ประสานและเลือก บางที่ตนไม่ทราบว่าคัดเลือกมาอย่างไร แต่บางที่สื่อก็มีการตกลงกันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไป 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนที่มีการพาดพิงถึงตนว่าไม่แฟร์ รัฐบาลเลือกสื่อที่ไป ตนมองว่าเป็นการดูถูกสื่อไม่คิดว่าใครเป็นสื่อของรัฐบาล ยกเว้น NBT ที่เขาก็ทำหน้าที่ นอกจากนี้ สื่อที่เลือกไปก็เลือกจากความนิยมและเรตติ้งที่มีอิทธิพลต่อประชาชนมากที่สุด รัฐบาลก็กระจายให้ทั้งหมด ส่วนที่มีคนมาบอกว่าจะไปขอสมาคม หรือจะไปขอทางการจีนก็เรื่องของท่าน ไม่ใช่บอกว่าเราเอาแต่สื่อรัฐบาลไปทั้งนั้น รอดูว่าใครได้ไปแล้วตอบเอง ว่าคุณไปดูถูกเขาหรือไม่ว่าเป็นสื่อรัฐบาล ซึ่งดูจากชื่อที่ออกมาก็คิดว่าทั่วถึง ทั้งจากทำเนียบรัฐบาล กระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม และครั้งนี้มีที่นั่งให้สื่อ 7-8 ที่ มีคนมาขอไปอีก ตนก็บอกว่าไปไม่ได้แล้วที่มีแค่นี้ เพราะฉะนั้นไม่แฟร์ที่จะมาบอกว่าเราทำแบบนี้ ขอให้ดูผลที่ออกมาก่อน แล้วค่อยมาตรวจสอบว่าสื่อที่ไปฝักใฝ่ฝ่ายใดหรือไม่ 

เมื่อถามว่านายรังสิมันต์ถามว่าสื่อจะมีเสรีภาพในการทำข่าวครั้งนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “เอ้า คุณจะมาถามผมได้ไง คุณต้องไปถามพวกคุณสิ”  ผู้สื่อข่าวจึงพยายามถามย้ำว่านายรังสิมันต์เป็นคนถาม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ​”คุณโรมถามก็เรื่องของคุณโรม อย่าไปสนใจ คุณโรมก็ถามแบบนี้ตลอด แต่อย่าเป็นคำถามที่ไม่มีรากฐาน” ก่อนจะขึ้นรถออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที