สงครามโลกครั้งที่ 1 กินเวลาระหว่างปี ค.ศ. 1914 ถึง 1918 ถูกขนานนามว่าเป็น “สงครามที่จะยุติสงครามทั้งหมด” ด้วยความสูญเสียชีวิตทหารและพลเรือนกว่า 17 ล้านคน และผู้บาดเจ็บอีก 20 ล้านคน ทำให้ผู้คนหวังว่าความขัดแย้งอันเลวร้ายเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก

แต่ความหวังนั้นก็พังทลายลงในเวลาเพียงสองทศวรรษ เมื่อความขัดแย้งที่รุนแรงกว่าเดิมปะทุขึ้นอีกครั้ง สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งกินระยะเวลาระหว่างปี ค.ศ. 1939 จนถึง 1945 ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 85 ล้านคน กลายเป็นหายนะที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

สงครามครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่การสู้รบที่ดุเดือดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความอดอยากครั้งใหญ่ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และการแพร่ระบาดของโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในค่ายกักกันนาซี ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

ความสูญเสียในสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น มหาศาลเกินกว่าที่จะสามารถอธิบายได้ ดังคำกล่าวที่มักถูกอ้างถึง โจเซฟ สตาลิน ผู้นำสหภาพโซเวียต ว่า “การตายหนึ่งคนคือโศกนาฏกรรม การตายล้านคนคือสถิติ”

อย่างไรก็ตาม การที่จะดึงความสูญเสีย 85 ล้านชีวิตออกจากสถิติ นำกลับมาสู่ความรู้สึกโศกเศร้า อาจทำได้ดีที่สุดด้วย “ภาพถ่าย”

ภาพถ่ายสงครามโลกครั้งที่ 2 เหล่านี้ จะพาเราย้อนกลับไปสัมผัสกับความโหดร้ายของสงคราม ตั้งแต่สนามรบไปจนถึงใบหน้าของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่ชีวิตของพวกเขาถูกทำลาย

ภาพถ่ายเหล่านี้เป็นมากกว่าแค่ภาพ พวกมันเป็นพยานถึงความเจ็บปวด ความกล้าหาญ และความสูญเสียที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

จากเพิร์ลฮาร์เบอร์สู่ดีเดย์: ภาพถ่ายเหล่านี้จะนำคุณไปสู่เหตุการณ์สำคัญๆ ที่คุณอาจคุ้นเคย แต่ยังมีความทรงจำอีกมากมายที่ถูกบันทึกไว้

ใบหน้าของสงคราม: สัมผัสความรู้สึกของผู้คนที่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายของสงคราม ทั้งทหารที่ต้องต่อสู้ในสมรภูมิ และพลเรือนที่ต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด

ความทรงจำที่ยังคงอยู่: ภาพถ่ายเหล่านี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของการเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ เพื่อที่เราจะไม่ทำผิดพลาดซ้ำรอยเดิมอีก

สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นบทเรียนที่เจ็บปวด แต่เป็นบทเรียนที่เราต้องเรียนรู้ เพื่อสร้างโลกที่สงบสุขและปราศจากความขัดแย้ง

ที่มา : allthatsinteresting.com, John Kuroski, Savannah Cox

ขอบคุณภาพจาก :
Wikimedia Commons
U.S. Navy via Wikimedia Commons
Robert F. Sargent, U.S. Coast Guard/National Archives and Records Administration via Wikimedia Commons
Cpl. Edward Belfer, U.S. Army/National Archives and Records Administration
Paris Bureau of The New York Times/National Archives and Records Administration via Wikimedia Commons
National Archives and Records Administration via Wikimedia Commons
Department of Defense/National Archives and Records Administration via Wikimedia Commons
Joe Rosenthal/The Associated Press/U.S. Navy/National Archives and Records Administration
United States Holocaust Museum via Wikimedia Commons
Hiromichi Matsuda/Nagasaki Atomic Bomb Museum via Wikimedia Commons
German Federal Archives via Wikimedia Commons
Army Signal Corps/U.S. National Archives via Wikimedia Commons
German Federal Archives via Wikimedia Commons
U.S. Navy/National Archives and Records Administration
Jack Downey, U.S. Office of War Information/Library of Congress via Wikimedia Commons
Paris Bureau of The New York Times/National Archives and Records Administration via Wikimedia Commons
Wikimedia Commons
Jerry J. Jostwick/U.S. Air Force via Wikimedia Commons
Wikimedia Commons
Lt. Longini, U.S. Army Signal Corps/National Archives and Records Administration via Wikimedia Commons
2d Lt. Jacob Harris., U.S. Army/National Archives and Records Administration via Wikimedia Commons