เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 มี.ค.ตามเวลาท้องถิ่นเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เมืองคาซือ สาธารณรัฐประชาชนจีน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะสื่อมวลชน เดินทางเยี่ยม ชาวอุยกูร์ ที่เดินทางกลับมาเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และรอต้อนรับ ที่หน้าบ้านพักทันที พร้อมกล่าวทักทายนายภูมิธรรมด้วยความยินดี และระบุว่า เดินทางกลับมา 20 กว่าวันแล้ว มีความสุขดี  พร้อมพานายภูมิธรรมและคณะ เดินเข้าเยี่ยมชมบ้านพัก

โดยชาวอุยกูร์ กล่าวว่า การได้กลับมาบ้านรู้สึกดี เพราะ 10 กว่าปีที่จากไป บ้านเมืองเปลี่ยนไปมากพร้อมโชว์บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน ที่ได้รับ รวมถึงเงินชดเชยการชดเชยเงินเดือน ในช่วงที่ผ่านมาด้วย ทำให้รู้สึกว่าการตัดสินใจครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง รัฐบาลตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว ที่ส่งคืนชาวอุยกูร์ กลับสู่ครอบครัวอย่างมีความสุข

จากนั้นนายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีที่ได้กลับบ้าน ย้ำไทยต้องปฏิบัติตามกฎหมายจึงมีการกัดตัว และ ขอโทษที่คุมตัวนานถึง 10 ปี เนื่องจากไม่มีประเทศใดทำหนังสือยืนยันขอรับตัวไป และ ขอโทษอีกครั้งหากได้รับความยากลำบากในระหว่างที่ถูกคุมตัว ทั้งนี้ จีนยืนยันต้องการให้พลเมืองของเขาเดินทางกลับและรับรองความปลอดภัย แม้จะคนบางในโลก และในไทยแสดงความกังวลไม่เห็นด้วยกับการส่งตัวกลับมา แต่คำยืนยันจากรัฐบาลจีน ทำให้ไทยมั่นใจ และ การมาครั้งนี้เพราะอยากมาเยี่ยมเยียน เมื่อมาเห็นท่านมีความสุขทุกคนก็สบายใจ 

ต่อมาเวลา 14.45 น. นายภูมิธรรม เดินทางเยี่ยมที่บ้านพักของชายชาวอุยกูร์หลังที่ 2 อีก 1 คน ซึ่งเป็นครอบครัวใหญ่ พ่อและพี่น้องรอพร้อมให้การต้อนรับเช่นกัน  โดยนายภูมิธรรม สอบถามว่าจดหมายที่ออกมาเป็นข่าว 3 ฉบับเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ เพราะไม่ประสงค์เดินทางกลับจีนนั้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ชายคนดังกล่าว กล่าวยืนยันว่า ไม่เคยเขียนจดหมายขอความช่วยเหลืออย่างที่เป็นข่าว แค่หวังว่า อยากจะกลับบ้านเร็ว ๆ และ ยืนยันว่า ในช่วง 10 ปี ไม่มีประเทศที่ 3 หรือหน่วยงานไหน เข้าไปให้ความช่วยเหลือ หรือ ขอรับตัวนอกจากทางการจีน

จากนั้น ในช่วงท้ายนายภูมิธรรม เปิดโอกาสให้ญาติของชายชาวอุยกูร์ กล่าวกับคนไทย โดยน้องสาว ขอบคุณที่ส่งตัวพี่ชายคืนสู่ครอบครัว รู้สึกดีใจเหมือนกับตนเอง เป็นนางฟ้าได้รับการติดปีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการเยี่ยมบ้านชาวอุยกูร์ทั้ง 2 ครอบครัวมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส บางคนถึงกับหลั่งน้ำตา เพราะไม่คิดว่า จะได้เจอกันอีกคิดว่าคงต้องตายอยู่ที่เมืองไทย

จากนั้นเวลา 17.50น. นายภูมิธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี ได้วิดีโอคอล กับชาวอุยกูร์ ที่เดินทางกลับมาจากประเทศไทย จำนวน 6 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นชาวอุยกูร์ที่เดินทางกลับมาเมื่อปี 58 ซึ่งได้เล่าชีวิตหลังกลับมายังเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ว่าเมื่อได้กลับมาเมื่อ 10 ปีก่อนก็ได้ใช้ชีวิตปกติ ได้แต่งงานและมีลูกเล็กที่ตอนนี้มีอายุ 1 เดือน เมื่อกลับมทางการก็ช่วยสร้างบ้านให้ ตอนนี้ใช้ชีวิตปกติ มีวัวอยู่ 52 ตัว แพะ 2 ตัว เงินเดือน 5,400 หยวนต่อเดือนชีวิตตอนนี้ปกติดีและเพิ่งสร้างบ้านเป็นของตัวเอง ส่วนหาเหตุที่ออกจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เป็นเพราะตนนั้นเป็นวัยรุ่น มีคนที่มีความคิดร้ายแรงชวนให้เดินทางไปด้วยก็ตามไป แต่เมื่อกลับมาแล้วชีวิตความเป็นอยู่ดีกว่าเมื่อก่อน 

โดยนายภูมิธรรม ได้สอบถามว่า อยากบอกอะไรไปยังคนไทยที่มีความเป็นห่วงบ้าง ชายชาวอุยกูร์ตอบว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างปกติไม่ต้องห่วง” พร้อมกันนี้ก็ยังได้วิดีโอคอลไปยังคนป่วยที่ต้องนำเตียงขึ้นเครื่องบินกลับมาซึ่งตอนนี้อาการดีขึ้นตามลำดับ

พร้อมกันนี้ นายภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่า ขอฝากความระลึกถึง นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจริง และนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ได้สั่งการให้ทุกท่านได้มาช่วยสนับสนุนและต้อนรับพวกตนอย่างมีเกียรติ การเดินทางมาครั้งนี้ และขอบคุณที่พยายามให้เราได้มีโอกาสพบและพูดคุยมากขึ้นกับชาวอุยกูร์ โดยจัดวิดีโอคอลให้พูดคุยกับผู้ที่อยู่ห่างไกล การมาครั้งนี้จุดประสงค์หลักคืออยากรู้ถึงชีวิต 40 ชาวอุยกูร์ และทราบว่าทางการจีนจะให้เรามีโอกาสได้พบกับชาวอุยกูร์ ที่มาเมื่อปี 2558 ซึ่งถ้าได้พบก็ยินดีและขอบคุณ.