สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เปิดเผยเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เมื่อวันพุธ ซึ่งทรัมป์กล่าวว่า “เป็นไปอย่างเชิงบวกและมีความสร้างสรรค์”
ผู้นำสหรัฐยืนยันว่า ความพยายามให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในฐานะคนกลาง รัฐบาลวอชิงตันพยายาม “จัดการ” ทั้งความต้องการของรัสเซียและยูเครน
ทรัมป์กล่าวว่า เสนอแนวคิดกับเซเลนสกีเกี่ยวกับ “ความเป็นไปได้’ ในการที่สหรัฐ “จะเข้าไปดูแล” โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ยึดครองของรัสเซียในยูเครน และรัฐบาลวอชิงตันอยู่ระหว่าง “การประสานงาน” กับยุโรป เพื่อให้มีการเพิ่มความสนับสนุนด้านระบบป้องกันทางอากาศยานแก่ยูเครน และการติดตามเด็กชาวยูเครน ที่หายตัวไป “เพราะการลักพาตัว” ของรัสเซีย
ขณะที่เซเลนสกีกล่าวว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป ถือว่าตั้งอยู่บนพื้นที่สู้รบแนวหน้า และมีความสำคัญอย่างยิ่งกับทั้งยูเครนและยุโรป พร้อมทั้งยืนยันว่า ยูเครนจะระงับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซียเช่นกัน และ “ไม่ได้สัมผัสถึงแรงกดดัน” จากทรัมป์ ในการให้รัฐบาลเคียฟต้องเป็นฝ่าย “ประนีประนอมมากกว่า”
ก่อนการสนทนากับเซเลนสกี ผู้นำสหรัฐสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งปูตินเห็นพ้องการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนเป็นเวลา 30 วัน แต่เน้นย้ำว่า “ไม่ใช่การหยุดยิง” และฝ่ายตะวันตกต้องยุติมอบความสนับสนุนทางทหารและข่าวกรองให้แก่ยูเครน “อย่างเด็ดขาด”.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES