สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ว่าสืบเนื่องจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากทั่วโลก ในอัตราเพิ่มอีก 25% ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลต่ออุตสาหกรรมเหล็กของยุโรป ที่ขณะนี้ก็กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากเอเชีย และราคาพลังงานที่สูง นั้น

นายสเตฟาน เซฌูร์น รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวว่า ในวันที่ 1 เม.ย. นี้ อีซีจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมเหล็กของอียู โดยมุ่งเป้าที่จะลดการนำเข้าลงถึง 15% ซึ่งจะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2569

กลุ่มอุตสาหกรรมยูโรเฟอร์ (Eurofer) ออกมาแสดงความยินดีกับมาตรการดังกล่าว และเตือนว่า “พลังงานยังคงเป็นปัญหาใหญ่” พร้อมทั้งเรียกร้องให้อียูดำเนินการมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนพลังงานในยุโรป

มากไปกว่านั้น อียูจะเริ่มการสอบสวนเกี่ยวกับอะลูมิเนียมในตลาดยุโรป และพิจารณาการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน โดยพวกเขาเสริมว่า ภาษีนำเข้าอะลูมิเนียมของสหรัฐมีแนวโน้มที่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

ขณะเดียวกัน อาร์เชเลอร์มิตตัล (ArcelorMittal) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตเหล็ก ระบุว่า พวกเขา “มีกำลังใจ” จากมาตรการของอียู และขณะนี้ มีความจำเป็นต้องสนับสนุนการหยุดยั้งการค้าที่ไม่เป็นธรรม การทุ่มตลาด และการสับเปลี่ยนทรัพยากร

อาร์เชเลอร์มิตตัลเสริมว่า การแก้ไขปัญหาต้นทุนพลังงานที่สูงยังคงมีความสำคัญ เนื่องจากปัญหานี้ทำให้ภาคอุตสาหกรรม ไม่สามารถดำเนินโครงการลดการปล่อยคาร์บอนได้.

เครดิตภาพ : AFP