เกือบเข้าโค้งสุดท้ายสำหรับวาระรัฐบาลชุดนี้ องคาพยพของพลพรรคการเมืองก็จัดหนักจัดเต็ม สังเกตได้จากบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ต่างกระจายกันลงพื้นที่หาเสียงเก็บกระสุน สร้างกระแส ตุนแต้มไว้สู้ศึกในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า

อย่าง พรรคเพื่อไทย ก็ถึงกับเปิดตัว ‘อุ๊งอิ้ง’ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายทักษิณ​ ชิน​วัตร​ อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ นั่งเป็น ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรคเพื่อไทย ที่ใครๆ ก็เก็งกันว่าเป็นการหยั่งเสียงปูทางขึ้นว่าที่แคนดิเดตบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เดินเกมแย่งคะแนนเสียงจากกลุ่มเยาวรุ่น โหวตเตอร์รุ่นแรก 

พร้อมกันนี้ พรรคเพื่อไทย เปิดฉากเขย่า รัฐบาล เตรียมยื่นเสนอญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยไม่ต้องลงมติ หรือว่าจะเรียกว่ามินิซักฟอก ที่คาดว่า เร็วที่สุดจะสามารถยื่นขอเปิดอภิปรายได้ในช่วงปลายเดือน พ.ย.-ต้นเดือน ธ.ค.นี้

นอกจากย้ำแผลเก่าที่คั่งค้างจากเวทีซักฟอกคราวก่อน แน่นอนจะได้เห็นการเปิดแผลใหม่ สแกนโจทย์ที่ฝ่ายค้านจะเปิดศึกรอบนี้ สารพัดปัญหาที่ฝ่ายค้านจะหยิบมาตี โดยเฉพาะโจทย์ความทุกข์ยากเรื่องปากท้องของประชาชน จากวิกฤติโควิด วิกฤติเศรษฐกิจ น้ำมันแพง ราคาข้าวตกต่ำ 

ที่ถึงขนาด นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย โชว์ซีนโปรยข้าวเปลือกกลางห้องประชุมสภาประท้วงรัฐบาล นอกจากนี้ยังขยี้ต่อด้วยภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือถุงข้าวสาร พร้อมระบุถ้าอดีตนายกฯ ยังอยู่คงไม่ปล่อยให้ประชาชนลำบากยากเข็ญแบบนี้

จนทำให้ “โทรโข่งรัฐ” นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทนไม่ไหวต้องรีบออกมาซัดว่าชาวนาจำ “ยิ่งลักษณ์” ได้ดี ในคดีจำนำข้าว พร้อมยืนยันตลอด 7 ปี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มองชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ และย้ำว่า รัฐบาลนี้มีหลายมาตรการดูแลพี่น้องชาวนา เตรียมโอนเงินให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในโครงการประกันรายได้ งวดแรกในวันที่ 9 พ.ย.นี้ 

นอกจากสารพัดปัญหาบ้านเมืองแล้ว ปัญหาการเมืองเรื่องความแตกแยกภายใน พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล เห็นชัดจากภาพการประชุมรัฐสภาที่ล่มไม่เป็นท่า องค์ประชุมปั่นป่วน และตราบใดที่ พรรคพลังประชารัฐ และ รัฐบาล ยังไม่เป็นเนื้อเดียวกัน ก็เป็นจุดเสี่ยงที่ทำรัฐบาลสั่นคลอนได้ตลอดเวลา

ประเด็นปัญหาบ้านเมืองร้อน การเมืองร้าวเหล่านี้ เชื่อว่าฝ่ายค้านไม่น่าพลาดยกมาขยี้ในเวทีอภิปราย อย่างไรก็ตาม แม้ “ศึกมินิซักฟอก” ไม่สามารถทำอะไรรัฐบาลได้ แต่ในช่วง ฝ่ายค้าน ปรับทัพ พรรครัฐบาล แตกทัพแบบนี้ การเดินเกมสภาเขย่าก็ถือเป็นเรื่องน่าจับตา 

อีกทั้ง แม้เวทีนี้ล้ม รัฐบาล ไม่ได้ แต่ ฝ่ายค้าน ได้ชิงจังหวะฉายภาพรัฐบาลล้มเหลว สร้างแต้มต่อการเมืองโกยคะแนนศรัทธาได้ เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเตรียมรับมือและแก้เกม

นอกจากนี้ในทางกลับกันก็ยังโจทย์ร้อนซักฟอก ก็จะเพิ่มแรงเสียดทานและลดแรงศรัทธาของรัฐบาลได้เช่นกัน โดยเฉพาะสนิมเนื้อในของรัฐบาลเองที่อาจจะมีสึนามิตามมาหลังจากนั้น…