สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ว่า นายอิสราเอล คัตซ์ รมว.กลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า สั่งการโดยตรงให้ทหารเดินหน้าปฏิบัติการยึดครองดินแดนในฉนวนกาซา ยิ่งกลุ่มฮามาสปฏิเสธปล่อยตัวประกันออกไปนานเท่าไหร่ กองทัพอิสราเอลจะยึดพื้นที่ในฉนวนกาซามากขึ้นเท่านั้น และอิสราเอลจะเป็นผู้ยึดครองดินแดนทั้งหมด


ขณะเดียวกัน คัตซ์กล่าวด้วยว่า อิสราเอลจะขยายเขตกันชนรอบฉนวนกาซาออกไปอีก เพื่อปกป้องพลเมืองอิสราเอลที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้กับฉนวนกาซา


ทั้งนี้ อิสราเอลกลับมาปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา หรือนานกว่าสามสัปดาห์ หลังข้อตกลงสงบศึกระยะที่หนึ่ง ซึ่งมีผล 42 วัน สิ้นสุดเมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา การโจมตีดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุด และนองเลือดมากที่สุดครั้งหนึ่งของอิสราเอล นับตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค 2566


ด้านกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์ร่วมกัน เรียกร้องการหยุดยิงครั้งใหม่ทันทีในฉนวนกาซา และประณามการที่อิสราเอลกลับมาปฏิบัติการทางทหาร ทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ “คือการทำให้ทุกอย่างถอยหลัง” อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ ยืนยัน “การสนับสนุน” ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา


ขณะที่กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ ว่าปฏิบัติการทางทหาร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สามารถสังหารนายราชิด จาโจอูห์ ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงภายในของกลุ่มฮามาสด้วย.

เครดิตภาพ : AFP