สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ว่า กระทรวงกลาโหมของไต้หวันออกแถลงการณ์ ว่าอากาศยานของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ( พีแอลเอ ) จำนวน 16 ลำ ละเมิดเขตพิสูจน์ฝ่ายป้องกันภัยทางอากาศ ( เอดีไอแซด ) ของไต้หวัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นับเป็นการรุกล้ำน่านฟ้าครั้งใหญ่ที่สุดของเครื่องบินรบจากจีน ตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่จีนเฉลิมฉลองวันชาติ 1 ต.ค.


เหตุการณ์ดังกล่าวยังคงเกิดขึ้นบริเวณหมู่เกาะปราตัส ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน และเกิดขึ้นในช่วงที่เจ้าหน้าที่ 13 คนของสภายุโรป ซึ่งเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการด้าน “การแทรกแซงจากต่างประเทศต่อกระบวนการประชาธิปไตย” ปิดฉากภารกิจการเยือนกรุงไทเปเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับรัฐบาลไต้หวัน ในเรื่องการแก้ไขปัญหาข่าวปลอม และการโจมตีทางไซเบอร์


นอกจากนี้ สำนักงานกิจการไต้หวันในกรุงปักกิ่งประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าด้วย “บทลงโทษทางอาญา” ต่อบุคคลซึ่งสนับสนุน “ขบวนการแบ่งแยกดินแดนและเรียกร้องเอกราชของไต้หวัน” ด้วยการห้ามเดินทางเข้าจีนและเขตบริหารพิเศษทั้งสองแห่ง คือ ฮ่องกง และมาเก๊า การห้ามคบค้าสมาคมกับบุคคลและองค์กรทุกแห่ง และทุกประเภทของแผ่นดินใหญ่ และผู้ที่สนับสนุนกลุ่มคนซึ่งจีนประกาศให้เป็น “บุคคลต้องห้าม” จากกรณีไต้หวัน จะไม่สามารถดำเนินธุรกิจในจีน ฮ่องกง และมาเก๊า ได้เช่นกัน


ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ที่รัฐบาลปักกิ่งประกาศ “มาตรการคาดโทษอันเป็นรูปธรรม” ต่อนโยบายข้ามช่องแคบที่ใช้กับไต้หวัน โดยมีการประกาศรายชื่อบุคคล 3 คนแรก ได้แก่ นายซู เจิ้ง-ชาง นายกรัฐมนตรีไต้หวัน นายโจเซฟ อู๋ รมว.การต่างประเทศไต้หวัน และนายโหยว สี-คุน ประธานสภานิติบัญญัติของไต้หวัน หรือ สภาหยวน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES