เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า วันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา เกิดกรณีมีการปักป้ายข้อความบริเวณ อ่างเก็บน้ำเขื่อนคีรีธาร บ้านสะพานหินบน ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี ข้อความว่า “หน่วยงานพลังงาน รังแกชาวบ้านริมเขื่อนคีรีธาร!! ชาวบ้านริมเขื่อนคีรีธารไม่ยินดีต้อนรับหน่วยงานพลังงาน!! เอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง รังแกชาวบ้าน ออกไป!!!”
โผล่อีก ‘เกาะทุเรียน’ นับร้อยไร่กลางอ่างเก็บน้ำ เขื่อนคีรีธาร ขลุงเมืองจันทบุรี

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ พบ นายกรรชัย มีกระโดน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านสะพานหินบน เปิดเผยว่า ได้มีการประสานว่าบริเวณดังกล่าวมีป้ายมาติด จึงได้มาตรวจสอบและรายงานไปยังผู้บังคับบัญชา พร้อมไปยัง กรมพัฒนาพลังงาน โครงการไฟฟ้า เพื่อรายงานคณะที่ปรึกษา ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษา รอง นายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน โดยรายงานแล้วว่าชาวบ้านมาปักป้ายแสดงเจตนา เพื่อขอความเป็นธรรม ซึ่งก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง ไม่ได้มีม็อบแน่นอน เพราะสู้ในเชิงสัญลักษณ์ในระบบประชาธิปไตย ขอแสดงสิทธิสัญลักษณ์ของชาวบ้าน
นายกรรชัย กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าม็อบไม่มีแน่นอน จะเป็นเพียงชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านระหว่าง หมู่ 3 และ หมู่ 4 เพราะเขาได้รับผลกระทบจากการปักป้ายปิดประกาศพื้นที่ห้ามบุกรุกมาก เพราะกระแสข่าวก็ออกมาว่าจะไม่ให้ใช้น้ำบ้าง จะล้อมรั้วบ้าง จนชาวบ้านกลัว เพราะชาวบ้านบางคนต้องใช้อุปโภคบริโภค และใช้ในการเกษตรกรรม ส่วนพ่อค้าปลาก็มีอาชีพหาปลา ลงเรือ จึงต้องการความชัดเจน จึงออกมาได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์แบบนี้ มองว่าเป็นการต่อสู้ที่ไม่ได้รุนแรงอะไรและตนก็รับรู้เรื่องนี้มาตลอดอยู่แล้ว

นายกรรชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ตนยังมีหน้าที่ประสานชาวบ้านถึงรัฐอยู่แล้ว เพราะว่าอยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนพื้นที่ เขื่อนคีรีธาร ก็ต้องกระทบกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบก็ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ก็ต้องมาปรึกษาตน และก็ต้องรายงานไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อให้ไปในทิศทางที่ชาวบ้านร้องเรียนมา อยากรู้เรื่องอะไรก็ต้องเรียนไปทางผู้บังคับบัญชา ซึ่งในความเข้าใจของชาวบ้านคิดว่า กรณี เกาะ100ไร่ ที่ชาวบ้านได้รื้อถอนออกหมดแล้ว เป็นไปตามที่มีข้อตกลงและครบกำหนดไปตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม แล้ว จึงคิดว่าเรื่องเรียบร้อยแล้วตามที่สื่อพาดหัวข่าว เลยคิดว่าสามารถทำกินได้ตามปกติ
นายกรรชัย กล่าวอีกว่า แต่จากการสอบถามชาวบ้านที่มาติดป้าย อ้าง ได้รับผลกระทบเพราะมีการทราบว่าจากมติเดิมถึงวันที่ 26 มีนาคม แต่ว่ามีการยืดเวลาออกไปถึงวันที่ 20 เมษายน 2568 และมีการให้รื้อสิ่งของสิ่งปลูกสร้างริมอ่างเก็บน้ำที่ไม่ใช่เกาะ100ไร่เพิ่มอีก ทำให้ชาวบ้านบางส่วนจึงได้ออกมาแสดงความไม่พอใจนำป้ายมาติดดังกล่าว เพื่อต้องการถาม ผู้เกี่ยวข้อง การอีกสักรอบถึงความชัดเจน อีกทั้งตนได้มีการประสานกับทางโครงการเขื่อนคีรีธาร หัวหน้าก็ยังตอบไม่ได้ เพราะเขาบอกว่าเป็นคำสั่งจากทางกระทรวง เพราะหัวหน้าเองเป็นแค่ผู้ประสานรับเรื่องไปรับเรื่องมา

นายกรรชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ได้รับทราบมาว่าชาวบ้านจะปิดทางไม่ให้ข้ามไปยังเกาะ 100 ไร่ เพราะว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล เป็นทางเชื่อมไปเกาะ 100 ไร่ ซึ่งตนว่าจะต้องรื้อถอนไป แต่ได้รับการประสานจากท่านที่ปรึกษา ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ว่าวันที่ 3 เมษายน ท่านจะลงพื้นที่มาตรวจอีกรอบ อาจจะต้องเก็บไว้ก่อนเพื่อให้คณะข้ามไปตรวจความเรียบร้อยบนเกาะ หลังจากนั้นจะปรึกษาหารือกับหัวหน้าว่าจะเอายังไงต่อไป