เมื่อวันที่ 28 มี.ค. นายภัชริ นิจสิริภัช เหรัญญิกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา และแรงสั่นสะเทือนมาถึงประเทศไทย ว่า ขณะนี้ประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมและอาคารสูง ซึ่งต้องอพยพออกจากที่พักอาศัยเนื่องจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย บางรายพบว่าอาคารเกิดรอยร้าว ทำให้ไม่สามารถกลับเข้าไปพักอาศัยได้ จึงขอให้กำลังใจกู้ภัยผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชน เพื่อแก้ไขวิกฤติและสถานการณ์เฉพาะหน้า ซึ่งปัญหาใหญ่ที่สุดในขณะนี้ คือประชาชนไม่มีที่พักพิงชั่วคราว โรงแรมหลายแห่งต้องอพยพลูกค้าออกจากอาคารโดยไม่มีการจัดหาที่พักสำรองให้ ขณะที่หน่วยงานรัฐยังไม่มีมาตรการชัดเจนในการช่วยเหลือด้านที่พักและความปลอดภัยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ย่านใจกลางเมือง สุขุมวิท สีลม และพระราม 9 รวมถึงดินแดง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของโรงแรมและอาคารสำนักงาน พบว่ามีผู้คนจำนวนมากต้องเร่ร่อนอยู่บนถนนหลังการอพยพ บางคนเลือกพักอยู่ในสวนสาธารณะ หรือสถานีขนส่งชั่วคราว เนื่องจากไม่มีทางเลือก
นายภัชริ เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนใน 4 ประเด็นหลักดังนี้ 1. จัดหาที่พักชั่วคราว เปิดศูนย์พักพิงฉุกเฉินให้ประชาชนที่ไม่สามารถกลับเข้าที่พักได้ โดยใช้สถานที่ราชการ สนามกีฬา หรือโรงเรียนเป็นศูนย์รองรับชั่วคราว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น 2. ตรวจสอบความปลอดภัยของอาคาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งตรวจสอบอาคารสูงที่ได้รับผลกระทบ และให้ข้อมูลที่ชัดเจนกับประชาชนเพื่อให้สามารถกลับเข้าไปพักอาศัยได้โดยไม่ต้องเสี่ยงอันตราย
3. การช่วยเหลือด้านการท่องเที่ยวโดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ต้องจัดหาที่พักสำรองให้กับนักท่องเที่ยวที่ถูกอพยพจากโรงแรม พร้อมให้ข้อมูลและบริการฉุกเฉินเพื่อลดผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย และ 4. รัฐต้องประกาศเตือนภัยเรื่องทรัพย์สินของประชาชนในคอนโดมิเนียม ที่พักอาศัยตึกสูงเสี่ยงสูญหาย จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานงานกับเจ้าของอาคารในการหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดการสูญหายของทรัพย์สินในช่วงเวลาฉุกเฉินนี้
“นี่ไม่ใช่แค่ภัยธรรมชาติ แต่เป็นบททดสอบของรัฐบาลว่าจะสามารถดูแลประชาชนในภาวะฉุกเฉินได้ดีเพียงใด หากไม่มีมาตรการรองรับที่เพียงพอ จะยิ่งทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสูญเสียความเชื่อมั่นในระบบการบริหารจัดการภัยพิบัติของประเทศ” นายภัชริกล่าว
ทั้งนี้ ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า BTS และ MRT เส้นทางสัญจร ยังไม่สามารถกลับมาให้บริการได้เต็มรูปแบบ เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัยของรางและสถานี ส่วนการเดินทางทางอากาศก็ได้รับผลกระทบ เที่ยวบินภายในประเทศบางเที่ยวบินล่าช้า ทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากตกค้างที่สนามบินโดยไม่มีที่พักสำรอง ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งหามาตรการบรรเทาความเดือดร้อน เช่น จัดหารถโดยสารเสริม เปิดเส้นทางสำรอง และให้ข้อมูลที่ชัดเจนแก่ประชาชน เพื่อให้สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น